ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education)
เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม
ผู้วิจัย ทองแข หมื่นพิลมทอง
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ว 23101 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรม 3) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 หลังจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรม 4) เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 หลังจากการเรียนด้วยชุดกิจกรรม
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคมอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม และ 3) แบบประเมินชิ้นงาน STEM ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม พื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยครั้งนี้มีดังต่อไปนี้
1. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคมโดยใช้แผนการเรียนรู้จำนวน 4 หน่วย มีประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยเท่ากับ 81.90/86.20 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิดการทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิดการทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคมพบว่าผลการประเมินทักษะการคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกรายการ
4. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียน แม่กุวิทยาคมพบว่าผลการประเมินทักษะในการทำงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุดและผ่านเกณฑ์การประเมิน
5. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อส่งเสริมการคิด การทำงานและความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแม่กุวิทยาคม พบว่าผลการประเมินความสามารถในการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับ มากที่สุดและผ่านเกณฑ์การประเมิน