บทสรุปของผู้บริหาร
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตของนักเรียนโรงเรียนบ้านยูงงาม อำเภอเวียงสระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 3 ในด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ ในการดำเนินงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตของนักเรียนโรงเรียนบ้านยูงงาม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือบุคคลที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตของนักเรียนโรงเรียนบ้านยูงงาม อำเภอเวียงสระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ปีการศึกษา 2563 ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา 1 คน ครูผู้สอน 4 คน นักเรียน 33 คน ผู้ปกครองนักเรียน 32 คน และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน รวมทั้งสิ้น 77 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับของลิเคิร์ท ซึ่งผู้รายงานได้จัดสร้างขึ้นโดยผ่านการตรวจพิจารณาหาความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างและเชิงเนื้อหา จากผู้เชี่ยวชาญ ของแบบประเมินจำนวน 2 ชุด ซึ่งแบบประเมินชุดที่ 1 เกี่ยวกับการประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านกระบวนการ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นแอลฟา 0.94 แบบประเมินชุดที่ 2 ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นแอลฟา 0.91 การจัดเก็บข้อมูล ผู้รายงานดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองโดยกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บ โดยแจกแบบประเมิน จำนวน 77 ฉบับ แบบประเมินที่ได้รับคืนมาจำนวน 77 ฉบับ ซึ่งมีความสมบูรณ์ทั้ง 77 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ด้วยสถิติค่าเฉลี่ย (¯X) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการศึกษาพบว่า จากการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตของนักเรียนโรงเรียนบ้านยูงงาม อำเภอเวียงสระ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ผลการประเมินพบว่า ตัวชี้วัดทุกตัว ประเด็นการประเมินทุกประเด็น และภาพรวมของโครงการผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด คือ
 1. ด้านบริบทของโครงการอยู่ในระดับมากและผลของตัวชี้วัด 3 ตัวชี้วัด มีดังนี้
1.1 ความต้องการและความจำเป็นในการจัดทำโครงการอยู่ในระดับมาก
1.2 ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์กับกิจกรรมในโครงการอยู่ในระดับมาก
1.3 ความชัดเจนของเป้าหมายและองค์ประกอบของโครงการอยู่ในระดับมาก
2. ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการอยู่ในระดับมากและผลของตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด มีดังนี้
2.1 บุคลากรในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมาก
2.2 งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมาก
2.3 สื่อ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมาก
2.4 รูปแบบการจัดกิจกรรมในโครงการอยู่ในระดับมาก
3. ด้านกระบวนการของโครงการอยู่ในระดับมากและผลของตัวชี้วัด 3 ตัวชี้วัด มีดังนี้
3.1 การบริหารจัดการโครงการอยู่ในระดับมาก
3.2 กระบวนการจัดกิจกรรมอยู่ในระดับมาก
3.3 การนิเทศ กำกับ ติดตามอยู่ในระดับมาก
4. ด้านผลผลิตของโครงการอยู่ในระดับมาก และผลของตัวชี้วัด 3 ตัวชี้วัด มีดังนี้
4.1 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก
4.2 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมาก
4.3 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอยู่ในระดับมาก
5. ด้านผลกระทบของโครงการอยู่ในระดับมากและผลของตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด มีดังนี้
5.1 ความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนที่มีต่อผลการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตของนักเรียนอยู่ในระดับมาก
5.2 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อผลการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตอยู่ในระดับมาก
5.3 ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อผลการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตอยู่ในระดับมาก
5.4 ความพึงพอใจของกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อผลการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนคุณธรรมจริยธรรมหนุนนำชีวิตอยู่ในระดับมาก
จากผลการประเมินตัวชี้วัดและประเด็นการประเมินดังกล่าวทำให้ผลการประเมินโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
 
ข้อเสนอแนะ
1. จากผลการประเมินที่พบว่า การดำเนินโครงการโดยรวมผ่านเกณฑ์และอยู่ในระดับมาก จึงควรดำเนินการโครงการนี้ต่อไป จัดกิจกรรมรูปแบบเดิมหรือพัฒนากิจกรรมให้มีความ หลากหลายขึ้น เพื่อพัฒนาส่งเสริมพฤติกรรมนักเรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีขึ้นตามลำดับ
2. จากผลการประเมินที่พบว่า ด้านบริบท ด้านปัจจัย ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก แสดงว่าผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน
ผู้ปกครองนักเรียน และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความตระหนักให้ความสำคัญกับการพัฒนานักเรียนให้เกิดคุณธรรมจริยธรรมในทุกด้านส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จ ดังนั้นโรงเรียนต้องร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพต่อไป
3. หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดสรรงบประมาณ และสื่อ วัสดุ อุปกรณ์อย่างเพียงพอ