ชื่อวิจัย การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Food and Drinks
วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย จิตตราภรณ์ รามพัด
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
เรื่อง Food and Drinks วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Food and Drinks วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Food and Drinks วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนหนองโสนวิทยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
จำนวน 27 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Food and Drinks 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เรื่อง Food and Drinks วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.30/83.98 ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
เรื่อง Food and Drinks วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการอ่าน
ภาษาอังกฤษ เรื่อง Food and Drinks วิชาภาษาอังกฤษ (อ16101) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.55 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.55