ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้ศึกษา ธัญชนก เดชพันธ์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดนิโครธาราม

สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองพัทลุง ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

ปีที่ศึกษา 2562

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อออกแบบและพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2. เพื่อศึกษาการคิดวิจารณญาณของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ดำเนินการวิจัย 4 ขั้นตอนได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การสังเคราะห์ข้อมูลผลการเรียนเพื่อกำหนดสื่อการสอน จากศึกษาค้นคว้า ตำรา เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและการหาประสิทธิภาพชุดการเรียนรู้แบบ story telling จากการประเมินความเหมาะสมด้วยแบบประเมินมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับจากผู้เชี่ยวชาญ และหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ขั้นตอนที่ 3 การใช้และการหาประสิทธิผลของชุดการเรียนรู้แบบ story telling จากการทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลวัดนิโครธาราม มีนักเรียนจำนวน 27 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้เวลาในการทดลอง 16 ชั่วโมง ขั้นตอนที่ 4 การพัฒนาและการขยายผลการใช้ชุดการเรียนรู้แบบ story telling โดยขยายผลให้ผู้สอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ 1. ชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 เล่ม 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Likert Scale) จำนวน 10 ข้อ 4. แบบประเมินการคิดวิจารณญาณ ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 4 ระดับ (Likert Scale) จำนวน 4 ข้อ 5. แผนการจัดการเรียนรู้ ชุด การเรียนรู้แบบ story telling จำนวน 16 แผน แล้วนำมาวิเคราะห์ข้อมูลหาประสิทธิภาพของกระบวนการประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที t – test (dependent) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. การพัฒนาชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.27 /88.90 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ 1

2. ทักษะการคิดวิจารณญาณของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีขึ้นไปทุกคน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ 2

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้แบบ story telling ที่ส่งเสริมการคิดวิจารณญาณ เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ 4

โพสต์โดย ครูปู : [29 ต.ค. 2564 เวลา 09:05 น.]
อ่าน [3518] ไอพี : 223.207.242.32
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,383 ครั้ง
ดาวน์โหลด! คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ดาวน์โหลด! คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 19,317 ครั้ง
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม

เปิดอ่าน 120,111 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย

เปิดอ่าน 27,655 ครั้ง
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป
เมื่องานที่ทำ ยังไม่เป็นงานที่ใช่ จะอยู่ทำก่อนหรือจากไป

เปิดอ่าน 75,995 ครั้ง
กริยา กับ กิริยา
กริยา กับ กิริยา

เปิดอ่าน 44,432 ครั้ง
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?

เปิดอ่าน 10,760 ครั้ง
ถึงเวลา"ยกเครื่อง" สทศ. เรียกศรัทธา...ระบบทดสอบชาติ!!
ถึงเวลา"ยกเครื่อง" สทศ. เรียกศรัทธา...ระบบทดสอบชาติ!!

เปิดอ่าน 12,777 ครั้ง
คิดเอาเองว่าเครียด ร้ายหนักกว่าเครียดจริง
คิดเอาเองว่าเครียด ร้ายหนักกว่าเครียดจริง

เปิดอ่าน 98,863 ครั้ง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 15,615 ครั้ง
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ
การดูแลรักษาตนเองเมื่อเจ็บคอ

เปิดอ่าน 10,614 ครั้ง
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"

เปิดอ่าน 52,904 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 9 การเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่

เปิดอ่าน 15,395 ครั้ง
แชร์ว่อนเน็ต ตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งเลนขวาผิดหรือ
แชร์ว่อนเน็ต ตำรวจจับมอเตอร์ไซค์ วิ่งเลนขวาผิดหรือ

เปิดอ่าน 13,565 ครั้ง
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก

เปิดอ่าน 11,291 ครั้ง
หนังสือ 108 คำถาม พนักงานราชการ 2
หนังสือ 108 คำถาม พนักงานราชการ 2

เปิดอ่าน 1,158 ครั้ง
วิธีบรรเทาอาการไข้หวัดและเจ็บคอ ด้วยวิธีธรรมชาติ
วิธีบรรเทาอาการไข้หวัดและเจ็บคอ ด้วยวิธีธรรมชาติ
เปิดอ่าน 349,109 ครั้ง
ความสำคัญของภาษาไทย
ความสำคัญของภาษาไทย
เปิดอ่าน 12,632 ครั้ง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 10,321 ครั้ง
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน
7 คำถามที่ควรถามลูก...หลังลูกจากกลับจากโรงเรียน
เปิดอ่าน 41,878 ครั้ง
ย้อนรอยสายราชสกุล... ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (๑)
ย้อนรอยสายราชสกุล... ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (๑)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ