ชื่อผู้วิจัย นางสาวสุรภี หนูเรียงสาย
ปีที่ทำการวิจัย ปี พ.ศ. 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ตามเกณฑ์กำหนด 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ ด้วยชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ มีขั้นตอนการวิจัย 4 ขั้นตอนสำคัญ คือ ขั้นการวิเคราะห์ปัญหา ขั้นการออกแบบนวัตกรรม ขั้นการพัฒนานวัตกรรม ขั้นการนำไปใช้และประเมินผล ระยะเวลาการวิจัยระหว่างวันที่
16 พฤษภาคม 19 กันยายน 2559 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนวัดป่าประดู่ จังหวัดระยอง จำนวน 270 คน ได้มาโดยเจาะจง ใช้เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมทั้งสิ้น จำนวน 36 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านเชิงวิเคราะห์ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย(X-bar) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และt-test for Dependent Samples
สรุปรายงานผล พบว่า
การพัฒนาการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2559 โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวัดป่าประดู่ จังหวัดระยองสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้
1. แบบฝึกการอ่านเชิงวิเคราะห์ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 E1/E2 มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 82.34/81.48 ซึ่งเกินร้อยละ 80 เป็นไปตามเป้าหมายในการพัฒนาที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกการอ่านเชิงวิเคราะห์โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 20.41 และ 32.59 ตามลำดับ เป็นไปตามเป้าหมายในการพัฒนาที่ตั้งไว้
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเท่ากับ 0.6 ขึ้นไปมีค่าเฉลี่ยของ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือด้วยชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 20.15 และ 32.44 ตามลำดับ มีค่าพัฒนาเท่ากับ 12.18 ได้ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6217 ซึ่งเป็นตามเป้าหมายในการพัฒนาที่ตั้งไว้
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกการอ่านเชิงวิเคราะห์ โดยใช้
เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย (x̄ )=4.56 ,
S.D.= 0.24 เป็นตามเป้าหมายในการพัฒนาที่ตั้งไว้