บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ
นักเรียน โรงเรียนบ้านสันจกปก
ชื่อผู้รายงาน : นายทรงกิจ บุญยืน
ปีที่รายงาน : พ.ศ. 2564
การรายงานการประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินบริบท 2) เพื่อประเมินปัจจัยเบื้องต้น 3) เพื่อประเมินกระบวนการ และ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของรายงานการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านสันจกปก จังหวัดพะเยา ปีการศึกษา 2563 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู จำนวน 7 คน นักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 23 คน ผู้ปกครอง จำนวน 23 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 7 คน รวมกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาทั้งสิ้น จำนวน 60 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ขอบเขตด้านเนื้อหาได้ประเมินการดำเนินงานตามโครงการ ในด้านบริบทด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิตโดยสอบถามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 รายการ ได้แก่ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัย 4) ใฝ่เรียนรู้ 5) อยู่อย่างพอเพียง 6) มุ่งมั่นในการทำงาน 7) รักความเป็นไทย และ 8) มีจิตสาธารณะ ส่วนความพึงพอใจต่อการดำเนินโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม จำนวน 12 กิจกรรม รวมถึงการวัดความพึงพอใจต่อคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้ประเมินสร้างขึ้น จำนวน 4 ฉบับ เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินพบว่า
1. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมมากที่สุด ทุกข้อผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การดำเนินนี้มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และ รูปแบบการจัดทำโครงการเหมาะสมกับสภาพของโรงเรียน ค่าเฉลี่ยเท่ากัน รองลงมา คือ กำหนดเป้าหมายของโครงการได้สอดคลองกับนโยบายของต้นสังกัด โครงการสอดคล้องกับภารกิจหลักของโรงเรียนบ้านสันจกปกและโครงการตอนสนองความต้องการของบุคลากร นักเรียนและชุมชน และโครงการมีเป้าหมายที่ชัดเจน ค่าเฉลี่ยเท่ากัน หลักการและวัตถุประสงค์โครงการมีความสอดคล้องกันและกิจกรรมโครงการมีแผนการดำเนินงานชัดเจน โครงการมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ และการดำเนินโครงการมีความคุ้มค่าในการลงทุน และโครงการสามารถวัดและประเมินผลได้อย่างชัดเจน ค่าเฉลี่ยเท่ากัน และมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ระยะเวลาในการดำเนินงานมีความเหมาะสม
2. ผลการประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ โดยรวมมีความเหมาะสมมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ปัจจัยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ปัจจัยด้านบริหารจัดการ รองลงมา คือ ปัจจัยด้านงบประมาณ ปัจจัยด้านวัสดุอุปกรณ์ และปัจจัยที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ปัจจัยด้านบุคลากร
3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินโครงการ พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การแต่งตั้งคณะคณะกรรมการดำเนินโครงการ และวิธีดำเนินการในกิจกรรมมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ และ มีการประชุมติดตามงาน รายงานผลการปฏิบัติงานเป็นระยะ และ ผู้บริหารให้ความสนใจ และดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคให้ทันที และมีการจัดระบบข้อมูลสารสนเทศของกิจกรรมอย่างเป็นระบบ และ มีการเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติกิจกรรมสม่ำเสมอ มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน รองลงมา คือ กิจกรรมมีการดำเนินงานไปตามเป้าหมาย และกำหนดเวลา และการปฏิบัติงานในกิจกรรมมีขอบเขตแน่นอน และ ผู้บริหารมีส่วนร่วมในการดำเนินงานโครงการตลอดทุกระยะ และ มีการประสานงานของแต่ละฝ่ายให้การดำเนินกิจกรรมเป็นไปด้วยความราบรื่น และ มีการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานในกิจกรรม และ มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาในการดำเนินกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ และมีระบบการติดตามและประเมินผลที่ชัดเจน และ มีการนำผลการประเมินมาปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอ มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การเตรียมการก่อนดำเนินงานมีความเหมาะสม และคณะครูนักเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผน และ ระยะเวลาดำเนินการมีความเหมาะสมกับกิจกรรม และการดำเนินงานในกิจกรรมเป็นไปตาม 10 องค์ประกอบและครอบคลุมทุกองค์ประกอบ และ การจัดสรรงบประมาณที่ใช้ดำเนิน การในกิจกรรมมีความเหมาะสม และเพียงพอ และสถานที่ ครุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ มีความเหมาะสมในการดำเนินกิจกรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน
4. ผลการประเมินด้านผลผลิตโครงการ
4.1 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามความคิดเห็นของครูและนักเรียน พบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมิน แยกพิจารณาเป็นรายด้าน ดังนี้
ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเป็นชาติไทย
ด้านซื่อสัตย์สุจริต รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ ปฏิบัติตนโดยคำนึงถึงความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำผิด
ด้านมีวินัย รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น และตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรม ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน
ด้านใฝ่เรียนรู้ รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ ตั้งใจเรียนและเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้
ด้านอยู่อย่างพอเพียง รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ การไม่เอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน พร้อมให้อภัย เมื่อผู้อื่นกระทำผิดพลาด
ด้านมุ่งมั่นในการทำงาน รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ ทุ่มเททำงาน อดทน ไม่ย่อท้อต่อปัญหา และอุปสรรคในการทำงาน
ด้านรักความเป็นไทย รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ ชักชวนแนะนำให้ผู้อื่นปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปะ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย
ด้านมีจิตสาธารณะ รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงานด้วยความเต็มใจ
4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมในโครงการรายกิจกรรม พบว่า โดยภาพรวมผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจมากที่สุด และผ่านเกณฑ์การประเมินในทุก ๆ กิจกรรม เมื่อพิจารณาเป็นรายกิจกรรม พบว่า กิจกรรมวันเด็ก ค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ กิจกรรมวันประกาศเกียรติคุณผู้เรียน กิจกรรมวันภาษาไทย และกิจกรรมเสริมสร้างวินัยในโรงเรียนกิจกรรม ส่งเสริมประชาธิปไตย มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน กิจกรรมการประกวดพูด/เรียงความ เรื่อง ความดีที่ฉันทำ ในวันสำคัญต่าง ๆ กิจกรรมธรรมะ กิจกรรมพี่ไหว้น้อง กิจกรรมส่งเสริมความเป็นไทย กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ และกิจกรรมวันไหว้ครู มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน กิจกรรมวันแม่ ส่วนค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กิจกรรมวันสุนทรภู่ และกิจกรรมวันต่อต้านยาเสพติดโลก
ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1. ผู้บริหารต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทราบถึงแนวนโยบายความสำคัญของโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนบ้านสันจกปก
2. เปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแท้จริงในการเตรียมการวางแผน การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ นำปัญหาที่เกิดขึ้นมาพัฒนาปรับปรุงก่อนเปิดภาคเรียน โดยบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปี
3. ผลกระทบหลักที่มีต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง และนักเรียน เป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนที่เปลี่ยนแปลง อันเกิดจากการดำเนินงานทุกกิจกรรม ต้องส่งเสริมกิจกรรมที่มีลักษณะการพัฒนาที่สามารถใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และควรต้องมีเครื่องมือที่หลากหลายสามารถวัดได้ตามสภาพที่แท้จริง (Authentic Assessment) ครอบคลุมทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนดตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
4. ระดมสรรพกำลังในท้องถิ่น ทั้งภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกภาคส่วนสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ นอกเหนือจากที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ
ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
1. ควรศึกษาเรื่องผลกระทบทางด้านคุณภาพการศึกษา ที่เกิดขึ้นจากโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับชุมชน สังคม และผู้ปกครองอย่างแท้จริง ดังนั้นในการวิจัยครั้งต่อไปควรมีการประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participation Action Research) ที่เริ่มจากการศึกษาปัญหา (Problem Based) เพื่อหาแนวทางลด และกำจัดช่องว่างที่เกิดขึ้นเพื่อให้การดำเนินโครงการเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อผู้เรียนอย่างแท้จริง
2. ควรศึกษาและให้ความสำคัญเรื่องบทบาท หน้าที่ และภารกิจของครูและบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดำเนินโครงการ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยแท้จริง บรรลุตามกรอบการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
3. การพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษานั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง ดังนั้นจึงควรมีการวิจัยโดยกระบวนการเชิงระบบ (System Approach) เพื่อเป็นการศึกษาการดำเนินงานอย่างรอบด้านและหลากหลายมิติ