บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและ หาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจายกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ประชากรคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนในเขตคุณภาพศรีมหาโพธิ 2
อำเภอศรีมหาโพธิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านวังขอน อำเภอ
ศรีมหาโพธิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2556 จำนวน 14 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 7 ชุด คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือกจำนวน 20 ข้อ และแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ย
ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบที (t test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.20/88.02
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบ
ที่มีการกระจาย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการบวกที่มีการทดและการลบที่มีการกระจาย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
( x-ber= 4.83) (S.D. = 1.50)