ครูบ้านนอก

การวิจัยเรื่องการใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน ในการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านไร่ จังหวัดสงขลา ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน ผลการวิจัยสรุปได้ว่า การใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน สามารถพัฒนาทักษะทางการอ่านออกเสียงได้ดีขึ้น เห็นได้จากคะแนนแบบทดสอบอ่านที่ครูกำหนดให้พบว่าหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และจากการจัดทำแบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ของนักเรียนพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน แสดงให้เห็นว่า แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล สามารถทำให้การอ่านออกเสียง ร ล ของนักเรียนดีขึ้นอย่างแท้จริง เนื่องจากนักเรียนได้ฝึกกับแบบฝึกการอ่านออกเสียงจำนวนหลายชุดจึงทำให้การอ่านออกเสียงดีขึ้น

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. คะแนนทดสอบก่อนการจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบ การสอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.55 คะแนน และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.503 คะแนน คะแนนทดสอบหลังการจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.18 คะแนน และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.445 คะแนน ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนและหลังการจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน สรุปได้ว่า การจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน ในการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง ร ล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านไร่ จังหวัดสงขลา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .010 โดยมีพัฒนาการสัมพัทธ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.98

2. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ประกอบการสอน และให้คำสัมภาษณ์ความพึงพอใจในทิศทางเดียวกันว่ามีความพึงพอใจแบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล ที่ใช้ประกอบการสอน และอยากให้มีการนำแบบฝึกการอ่านออกเสียง ร ล มาประยุกต์ใช้กับทุกรายวิชา

เว็บน่าสนใจ