บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ 2) เพื่อศึกษากระบวนการการพัฒนาประสิทธิภาพครูด้านจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 รายวิชาหลักด้วยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ของนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ ปีการศึกษา 2562-2563 หลังจากได้รับการพัฒนาโดยกระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครู นักศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักศึกษาที่มีต่อกระบวนการการพัฒนาประสิทธิภาพครูด้านจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ 1) ครูกลุ่มเป้าหมายพัฒนา จำนวน 15 คน นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 55 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 9 คน และผู้ปกครองนักศึกษา จำนวน 55 คน ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ ในปีการศึกษา 2563
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหา ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นของครู นักศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองนักศึกษา 2) เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลการพัฒนา ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมครูกลุ่มเป้าหมายพัฒนา แบบสัมภาษณ์ครูเป้าหมายพัฒนา/ครูพี่เลี้ยง แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินประสิทธิภาพ 3) เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลความพึงพอใจ ได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 1) ข้อมูลจากแบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ การบันทึกกิจกรรม ผู้วิจัยได้นำข้อมูลที่ได้จากการสอบถาม การสังเกต การสัมภาษณ์ การตรวจสอบบันทึกกิจกรรมและเอกสารผลการปฏิบัติงานมาวิเคราะห์ ตีความ สร้างข้อสรุป (Induction) โดยการสังเคราะห์จัดหมวดหมู่ทางความคิด จัดอันดับความสำคัญและวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) แล้วประมวลผล แปลความหมายและเรียบเรียง นำเสนอรายงานในรูปแบบการพรรณนา 2) การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถาม แบบประเมิน ใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พบว่า การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ ในปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวม อยู่ในระดับ ปานกลาง รายการที่มีการปฏิบัติในระดับ น้อย 1) ความสามารถครูในการสร้างสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ATOM Application 2) ความสามารถในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 3) การส่งเสริมให้นักศึกษาเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามอัธยาศัย
2.ผลการพัฒนาประสิทธิภาพครูด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการการเรียนรู้ด้วย ATOM Application วงรอบที่หนึ่ง พบว่า ครูมีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยภาพรวมในระดับ ปานกลาง แต่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนพัฒนา ครูควรแนะนำแนวการสอนการวัดและประเมินผลที่ชัดเจนให้นักศึกษาทราบ ความรู้ความเข้าใจในเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบ ต่าง ๆ รวมทั้งการเลือกใช้เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความถนัดและความต้องการของผู้เรียน การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้และประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ด้านเนื้อหาในสื่อ ATOM Application ให้มีความเหมาะสมกับระดับความรู้ ความสามารถของผู้เรียน เร้าความสนใจ ให้เกิดการใฝ่รู้ ใฝ่เรียนในเรื่องราวที่ศึกษา
3. ผลการพัฒนาประสิทธิภาพครูด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการการเรียนรู้ด้วย ATOM Application วงรอบที่สอง พบว่า ครูมีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการการเรียนรู้ด้วย ATOM Application โดยภาพรวมในระดับ มาก มีความรู้ความเข้าใจมาตรฐานการศึกษาชาติและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าใจแนวคิดและหลักการในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการการเรียนรู้ด้วย ATOM Application สามารถสร้างสื่อ ATOM Application เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ในระดับดี รู้และใช้เทคนิควิธีสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้เหมาะสมกับผู้เรียน สามารถเขียนแผนและประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ดี สามารถวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ได้หลากหลายวิธี แต่การให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริงจนค้นพบความถนัด และการส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกค้นและรวบรวมข้อมูล และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ยังอยู่ในระดับ ปานกลาง
4. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 รายวิชาหลักด้วยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ของนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ ปีการศึกษา 2562-2563 หลังจากได้รับการพัฒนาโดยกระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application พบว่าในปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสูงกว่าปีการศึกษา 2562 เช่น รายวิชา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 สูงกว่าภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ทุกรายวิชา
5. ผลการศึกษาความพึงพอใจของครู นักศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักศึกษาที่มีต่อกระบวนการการพัฒนาประสิทธิภาพครูด้านจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application หลังการพัฒนาสิ้นสุดวงรอบที่สอง ความพึงพอใจของครู นักศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 ( =4.66 , S.D. = 0.66) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดจำนวน 13 ข้อ และระดับมากจำนวน 2 ข้อ แสดงว่ากระบวนการการพัฒนาประสิทธิภาพครูด้านจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วย ATOM Application ที่ผู้วิจัยศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้น มีความสอดคล้องกับความต้องการของครู นักศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักศึกษา
ข้อเสนอแนะ
1. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ ควรจัดกิจกรรมให้หลากหลายยิ่งขึ้นและใช้สื่ออื่น ๆ เพิ่มเข้ามาในการจัดกิจกรรม เพราะทำให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้เนื้อหาสาระที่ครบถ้วนสมบูรณ์
2. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสำโรงทาบ ควรกระตุ้นส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการรู้ผ่านสื่อที่ทันสมัยให้แก่นักศึกษาได้ปฏิบัติจริงจนค้นพบความถนัดและวิธีการของตนเอง ส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกค้นและรวบรวมข้อมูล และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
3. ครูควรส่งเสริมให้นักเรียนนำความรู้สู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น