ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบ PHUENG Model ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรั

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบ PHUENG Model ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้ศึกษา นางสาวศุภาภรณ์ แก้วเถื่อน

สถานศึกษา โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ดำเนินการโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา ซึ่งแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) การสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล 3) การทดลองใช้ 4) การประเมินความพึงพอใจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 603 โรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน เป็นห้องเรียนที่มีการคละผู้เรียนประกอบด้วยกลุ่มที่เรียนเก่ง ปานกลางและอ่อน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) สื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรม 20 ชั่วโมง (รวมทดสอบก่อนและหลังเรียน) และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test แบบ dependent) และวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) โดยการนำเสนอแบบพรรณนาบทความ

สรุปผลการศึกษา

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า การจัดการเรียนรู้ควรสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เน้นกระบวนการทำงานกลุ่มที่สามารถปรึกษาช่วยเหลือกันในการเรียนรู้ ครูควรมีสื่อการเรียนรู้ที่ท้าทาย มีสีสันนอกเหนือจากหนังสือเรียน มีวิธีการและขั้นตอนการสอนที่หลากหลาย แปลกใหม่เพื่อกระตุ้นความสนใจให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้ ควรเน้นกระบวนการกลุ่มให้มากขึ้น นักเรียนสามารถร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็น และครูไม่ควรมีบทบาทมากเกิดไป ตลอดจนผู้เรียนสามารถทบทวนบทเรียนซ้ำได้สะดวกและเข้าถึงข้อมูลบทเรียนได้ง่าย

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 พบว่า ได้รูปแบบการเรียนรู้แบบ PHUENG Model และสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยรูปแบบการเรียนรู้แบบ PHUENG Model ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 2.1 หลักการ 2.2 วัตถุประสงค์ 2.3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ทบทวนอย่างตั้งใจ (Purposely activate) ขั้นที่ 2 แสวงหาเสมอๆ (Habitually seek) ขั้นที่ 3 อธิบายอย่างเข้าใจชัดเจน (Understandably explain) ขั้นที่ 4 พัฒนาอย่างมุ่งมั่น (Eagerly develop) ขั้นที่ 5 แลกเปลี่ยนอย่างชัดเจนเหมาะสม (Noticeably exchange) และขั้นที่ 6 ประเมินผลอย่างได้รับประโยชน์ (Gainfully evaluate) 2.4 ระบบสังคม 2.5 สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน 2.6 เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ เมื่อนำไปทดลองใช้พบว่ามีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.93/84.42

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบ PHUENG Model ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยได้รับการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนรู้แบบ PHUENG Model ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X ̅=4.57, S.D. = 0.53) และผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด

เมื่อพิจารณาโดยภาพรวม พบว่า รูปแบบการเรียนรู้ PHUENG Model ร่วมกับสื่อดิจิทัล วิชาเคมี เรื่อง ไฟฟ้าเคมี เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้นมีประสิทธิผลสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้

โพสต์โดย ครูเดียร์ : [24 ก.ย. 2564 เวลา 11:55 น.]
อ่าน [3966] ไอพี : 49.230.163.203
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,021 ครั้ง
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย
อัตราเบี้ยเลี้ยงเดินทางในราชอาณาจักร ในลักษณะเหมาจ่าย

เปิดอ่าน 23,726 ครั้ง
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ
สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นต้นแบบโรงเรียนประชารัฐ

เปิดอ่าน 14,174 ครั้ง
"สงสัยไม่ช๊อต" วลีเด็ดลุงใจดี วลีฮิตข้ามคืน "เเก่ ใจดี สปอร์ต กทม."
"สงสัยไม่ช๊อต" วลีเด็ดลุงใจดี วลีฮิตข้ามคืน "เเก่ ใจดี สปอร์ต กทม."

เปิดอ่าน 741 ครั้ง
เตรียมพร้อม... เมื่อเข้าสตรีวัยทอง
เตรียมพร้อม... เมื่อเข้าสตรีวัยทอง

เปิดอ่าน 18,709 ครั้ง
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา

เปิดอ่าน 423,137 ครั้ง
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์

เปิดอ่าน 11,238 ครั้ง
10 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง
10 วิธีปลูกผักสวนครัวในกระถาง

เปิดอ่าน 11,438 ครั้ง
วิธีถนอม Handy drive สุดรัก
วิธีถนอม Handy drive สุดรัก

เปิดอ่าน 9,851 ครั้ง
อย.อายัดด่วนนมผงนำเข้าจากจีน 20 ตัน!
อย.อายัดด่วนนมผงนำเข้าจากจีน 20 ตัน!

เปิดอ่าน 14,103 ครั้ง
การทำบุญสะเดาะเคราะห์
การทำบุญสะเดาะเคราะห์

เปิดอ่าน 13,695 ครั้ง
เคล็ดลับ : กลิ่นมะนาวช่วยลด"เครียด"
เคล็ดลับ : กลิ่นมะนาวช่วยลด"เครียด"

เปิดอ่าน 20,098 ครั้ง
คำพ่อสอน เรื่อง "การทำงาน" ให้ประสบความสำเร็จ
คำพ่อสอน เรื่อง "การทำงาน" ให้ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 61,566 ครั้ง
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน

เปิดอ่าน 10,280 ครั้ง
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่
สิ่งที่ลูกได้จากน้ำนมแม่

เปิดอ่าน 27,513 ครั้ง
ลอการิทมิกธรรมชาติ
ลอการิทมิกธรรมชาติ

เปิดอ่าน 31,347 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?
เปิดอ่าน 11,396 ครั้ง
เศรษฐศาสตร์มนุษย์เงินเดือน
เศรษฐศาสตร์มนุษย์เงินเดือน
เปิดอ่าน 20,069 ครั้ง
ดูหรือยัง NameWee หนุ่มจีน-มาเลย์ ร้องเพลงจีบสาวไทย ที่ยอดวิวถล่มทลาย
ดูหรือยัง NameWee หนุ่มจีน-มาเลย์ ร้องเพลงจีบสาวไทย ที่ยอดวิวถล่มทลาย
เปิดอ่าน 126,817 ครั้ง
เตือนข้าราชการ นอกใจ มีชู้ มีกิ๊ก โดนโทษวินัย โทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือนจนถึงไล่ออก
เตือนข้าราชการ นอกใจ มีชู้ มีกิ๊ก โดนโทษวินัย โทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือนจนถึงไล่ออก
เปิดอ่าน 16,733 ครั้ง
 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ