ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ผลการประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 29 คน รูปแบบการวิจัยเป็นแบบที่มีการทดสอบเฉพาะหลังทดลอง (One group posttest design) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังกิจกรรมการเรียนการสอน ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ 16 ชั่วโมง จำนวน 8 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีแผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ 2 ชั่วโมง และแผนการจัดการเรียนรู้ปัจฉิมนิเทศ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง และหาประสิทธิภาพของเครื่องมือโดยประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องความคิดเห็นกับจุดประสงค์การเรียนรู้รายข้อ (IOC) และหาความเชื่อมั่นในการให้คะแนนด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Product – Moment Coefficient Correlation) 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ทดสอบค่าที ( t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนและครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ความเห็นที่สำคัญต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง คำนำ คำชี้แจง สารบัญ ภาษาพาเพลิน คำแนะนำการใช้ชุดฝึก วัตถุประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้/ ตัวอย่าง ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน แบบบันทึกคะแนน เฉลยแบบฝึกหักสำหรับครู รายละเอียดเกณฑ์การให้คะแนน จำนวน 8 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ประกอบด้วยเนื้อหา ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง 1) อนุภาคกับสถานะของสสาร 2) รู้เฟื่องเรื่องพลังงานความร้อน 3) อุณหภูมิ 4) การขยายตัวของสสาร 5) การหดตัวของสสาร 6) การเปลี่ยนสถานะของแข็ง 7) การเปลี่ยนสถานะของเหลว 8) การเปลี่ยนสถานะของแก๊ส โดยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบรายบุคคล มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 80.55/81.67 แบบกลุ่มเล็ก มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.98/82.50 และแบบภาคสนาม มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 82.02/82.75 และทำการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.66/82.67 โดยการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้จำนวน 8 ชุดกิจกรรม 8 แผนการจัดการเรียนรู้ รวม 16 ชั่วโมง ซึ่งมีปฐมนิเทศ 2 ชั่วโมงและปัจฉิมนิเทศ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง และการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ประกอบด้วย 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ ความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ เรื่อง ความร้อนกับสถานะของสารและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยภาพรวมนักเรียนมีความคิดเห็นความพึงพอใจอยู่ในระดับดี และมีความเห็นว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้นด้วยกิจกรรมกลุ่มร่วมมือ ทำให้นักเรียนมีความสามารถและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แก้โจทย์ปัญหาได้อย่างถูกต้องและเข้าใจได้ง่าย

ซึ่งเป็นปัญหาที่สอดคล้องและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในชีวิตประจำวันช่วยให้กิจกรรมระหว่างการเรียนสนุกท้าทายไม่น่าเบื่อและชื่นชอบ

โพสต์โดย Jee : [20 ก.ย. 2564 เวลา 07:13 น.]
อ่าน [87359] ไอพี : 101.51.37.200
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,110 ครั้ง
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย
ทำไมต้องตีเส้นซิกแซ็กก่อนถึงทางม้าลาย

เปิดอ่าน 49,534 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล

เปิดอ่าน 11,929 ครั้ง
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ
ดูแลสมอง ให้แจ๋วเสมอ

เปิดอ่าน 19,219 ครั้ง
วางตำแหน่งถ่ายภาพแบบไหนจึงสวย
วางตำแหน่งถ่ายภาพแบบไหนจึงสวย

เปิดอ่าน 45,535 ครั้ง
เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 1,928 ครั้ง
9 ประเภทธุรกิจที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ปี 2567
9 ประเภทธุรกิจที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ปี 2567

เปิดอ่าน 9,143 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี

เปิดอ่าน 77,448 ครั้ง
World Wide Web คืออะไร
World Wide Web คืออะไร

เปิดอ่าน 11,226 ครั้ง
เหตุใด...บัณฑิตครูเดินไม่ถึงฝัน กระบวนการผลิตหรือระบบการคัดเลือก?
เหตุใด...บัณฑิตครูเดินไม่ถึงฝัน กระบวนการผลิตหรือระบบการคัดเลือก?

เปิดอ่าน 8,712 ครั้ง
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์
รมต.สาธารณสุข แนะเลี้ยงลูกเทพให้พอดี ถ้าคิดว่าตอบโต้ได้ควรปรึกษาแพทย์

เปิดอ่าน 26,810 ครั้ง
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี

เปิดอ่าน 16,240 ครั้ง
แต่งสีขาว - ดำ ให้ดูโมเดิร์น
แต่งสีขาว - ดำ ให้ดูโมเดิร์น

เปิดอ่าน 13,436 ครั้ง
เสริมสุขภาพลูกน้อยให้ได้ผลด้วย ผลไม้
เสริมสุขภาพลูกน้อยให้ได้ผลด้วย ผลไม้

เปิดอ่าน 11,266 ครั้ง
พบตะกั่วในลิปสติก มีปริมาณน้อยมากต่ำกว่า ระดับเป็นอันตราย
พบตะกั่วในลิปสติก มีปริมาณน้อยมากต่ำกว่า ระดับเป็นอันตราย

เปิดอ่าน 43,539 ครั้ง
ความหมายยันต์
ความหมายยันต์

เปิดอ่าน 91,942 ครั้ง
สมุนไพรกำจัดแมลง
สมุนไพรกำจัดแมลง
เปิดอ่าน 3,645 ครั้ง
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดเทอม On-site ห่างไกลโควิด-19 แนะวิธีตรวจ ATK เด็ก
เปิดอ่าน 25,845 ครั้ง
บารัค โอบามา
บารัค โอบามา
เปิดอ่าน 50,015 ครั้ง
คู่มือการบริหารโรงเรียน ในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล
คู่มือการบริหารโรงเรียน ในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล
เปิดอ่าน 16,779 ครั้ง
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ