ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหน้าวัง จังหวัดพัทลุง

ผู้วิจัย : นายพนัสพงษ์ ผลอ่อน ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนบ้านหน้าวัง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต2 ปีการศึกษา 2563

การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหน้าวัง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง มีวัตุประสงค์เพื่อประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหน้าวัง โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท (Context Evaluation) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ทั้งนี้ประชากรในการวิจัยประเมินโครงการครั้งนี้ จำนวน 113 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 9 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 56 คน ผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับห้องเรียน จำนวน 40 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง(Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) แบบสอบถามการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหน้าวัง จำนวน 47 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น(Reliability) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 2) แบบสอบถามความพึงพอใจสำหรับนักเรียนเป็นผู้ประเมิน จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้ง(Reliability) ฉบับเท่ากับ 0.90 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจสำหรับผู้ปกครองเป็นผู้ประเมิน จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 ทั้งนี้ทำการประมวลผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ โดยใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (μ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () ทั้งนี้ผลการประเมินโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) พบว่า ในภาพรวมทุกด้านผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

ผลการประเมินโครงการสรุปได้ดังนี้

1.ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหน้าวัง ในภาพรวมพบว่า ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.65,  =0.46) เมื่อพิจารณาผลการประเมินจำแนกรายด้าน 5 ด้าน พบว่า (1) การประเมินด้านบริบท พบว่าผลการประเมิน อยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.60,  =0.48) (2) การประเมินด้านปัจจัยนำเข้าพบว่าผลการประเมิน อยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.53,  =0.40) (3) การประเมินด้านกระบวนการ พบว่าผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.70,  =0.47) (4) การประเมินด้านผลผลิต มีการประเมิน 2 ด้านคือ 1) คุณภาพของคุณลักษณะพึงประสงค์ของนักเรียน 2) ความพึงพอใจต่อการดำเนินงานของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนซึ่งประเมินโดย ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และคณะกรรมการสถานศึกษา พบว่าในภาพรวมลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.56,  =0.52) และความพึงพอใจต่อการดำเนินงานของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.76,  =0.44) (5) การประเมินด้านผลกระทบ พบว่าผลการประเมิน อยู่ในระดับมากที่สุด (μ= 4.72,  =0.43)

2. ผลประเมินความพึงพอใจของนักเรียน และผู้ปกครองที่มีต่อการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหน้าวัง พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (μ= 4.17,  =0.61) และผู้ปกครองมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (μ= 4.14,  =0.63)

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้

จากการศึกษาผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

1. ด้านความสอดคล้องของบริบท พบว่า การเข้ามาดำเนินกิจกรรมจากหน่วยงานภายนอกยังมีน้อย ควรมีการติดต่อประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอกเข้ามาจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและป้องกันให้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า งบประมาณยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ควรมีการจัดหางบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการให้เพียงพอ

3. ด้านกระบวนการ พบว่า หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมค่อนข้างน้อย ยังไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด ควรให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมโครงการ ควรมีการประชาสัมพันธ์ผลงานหรือกิจกรรมของโรงเรียนในสื่อสังคมออนไลน์ และกระจายโอกาสในการได้รับการช่วยเหลือนักเรียนในทุก ๆ ด้านอย่างทั่วถึง

4. ด้านผลผลิต พบว่า นักเรียนยังไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ตนเองในฐานะที่เป็นสมาชิกในครอบครัว ครูที่ปรึกษาควรให้คำปรึกษา แนะนำการปฏิบัติตนในการเป็นสมาชิกที่ดีต่อครอบครัว

5. ด้านผลกระทบ พบว่า ผู้ปกครองไม่มีเวลาในการเอาใจใส่บุตรหลานเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะผู้ปกครองต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ครูที่ปรึกษาควรสังเกตพฤติกรรมนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างใกล้ชิด

ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรนำผลที่ได้จากการประเมินครั้งนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการประเมิน เพื่อพัฒนารูปแบบในการจัดกิจกรรมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เหมาะสมตามสภาพโรงเรียน

2. ควรมีการเปรียบเทียบผลการดำเนินโครงการเกี่ยวกับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อนำข้อดีและข้อบกพร่องของการจัดกิจกรรมในแต่ละโรงเรียนมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาปรับปรุงการดำเนินโครงการต่อไป

โพสต์โดย กี้ : [14 ก.ย. 2564 เวลา 16:35 น.]
อ่าน [4699] ไอพี : 49.230.173.90
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,451 ครั้ง
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?

เปิดอ่าน 14,687 ครั้ง
คลิป"เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย" โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
คลิป"เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัย" โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เปิดอ่าน 8,554 ครั้ง
อินเนอร์มาเต็ม! ครูไทยแต่งเพลง "ค่านิยม12ประการ" ถ้าไม่ทำจะท่องทำไม!? (คลิป)
อินเนอร์มาเต็ม! ครูไทยแต่งเพลง "ค่านิยม12ประการ" ถ้าไม่ทำจะท่องทำไม!? (คลิป)

เปิดอ่าน 55,821 ครั้ง
ความหมายของเทคโนโลยี
ความหมายของเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 11,986 ครั้ง
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน
นักเรียน ม.2 ประดิษฐ์ หุ่นยนต์ล้างเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เน้นประหยัดเวลา ประหยัดเงิน

เปิดอ่าน 9,213 ครั้ง
หลักฟื้นสภาพจิตใจหลังน้ำลด
หลักฟื้นสภาพจิตใจหลังน้ำลด

เปิดอ่าน 11,825 ครั้ง
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?!
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?!

เปิดอ่าน 20,420 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

เปิดอ่าน 14,617 ครั้ง
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น

เปิดอ่าน 21,616 ครั้ง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง

เปิดอ่าน 11,336 ครั้ง
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก

เปิดอ่าน 32,407 ครั้ง
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"
รู้ไหมว่า...ประเทศไทยโชคดีที่ตั้งอยู่บน "เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก"

เปิดอ่าน 32,601 ครั้ง
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์

เปิดอ่าน 16,389 ครั้ง
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้
คุณครูจะช่วยเพิ่มสมาธิและความสนใจของนักเรียน ได้ด้วยเทคนิคนี้

เปิดอ่าน 13,207 ครั้ง
หลักเกณฑ์ฯ เลื่อนวิทยฐานะครูใหม่ : ยิ่งแก้ ยิ่งวน
หลักเกณฑ์ฯ เลื่อนวิทยฐานะครูใหม่ : ยิ่งแก้ ยิ่งวน

เปิดอ่าน 26,958 ครั้ง
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT
อนาคตหนังสือเรียนไทยในยุคก้าวไกลของ IT
เปิดอ่าน 4,191 ครั้ง
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
เปิดอ่าน 28,119 ครั้ง
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม?  วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม? วิชาที่คนไม่เข้าใจ
เปิดอ่าน 13,250 ครั้ง
แรงบิดและแรงม้า
แรงบิดและแรงม้า
เปิดอ่าน 13,416 ครั้ง
จะให้ลูกเก่งเลข ต้องออกกำลัง
จะให้ลูกเก่งเลข ต้องออกกำลัง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ