ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางสาวดรุณี ธรรมมิกะกุล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อสร้างและพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อทดลองใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อประเมินผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
การดำเนินการวิจัยประกอบด้วย 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์ ระยะที่ 3 ทดลองใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์ ระยะที่ 4 ประเมินผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ สังกัดสำนักการศึกษาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าร้อยละ (%) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบแบบสถิติไม่อิงพารามิเตอร์ Nonparametric Test) คือ Wicoxon Test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ปัญหาจากการจัดการเรียนรู้ในวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับดีขึ้นไปเฉลี่ยร้อยละ 52.25 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของโรงเรียนร้อยละ 75 จากปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และจากข้อมูลที่ศึกษาวิเคราะห์ สรุปปัญหาได้ดังนี้ ครูผู้สอนแบบบรรยายทำให้นักเรียนขาดความสนใจ มีสื่อการสอนไม่หลากหลายและทันสมัย จากการสอบถามความต้องการของนักเรียนในการต้องการใช้สื่อและกระบวนการจัดการเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการเรียนด้วยกิจกรรมกลุ่มและสื่อออนไลน์ที่สามารถเรียนได้ตลอดเวลา
2. สร้างและพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
2.1 ผู้วิจัยสร้างแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 แผน รวม 14 ชั่วโมง
2.2 คลิปวีดีโอการสอน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ
มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.71 อยู่ในระดับ เหมาะสมมากที่สุด
2.3 แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ทดลองใช้นำร่อง (Try Out) เฉพาะภาคสนาม มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.48/83.56 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
3. ผลการทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินการใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับสื่อออนไลน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ( =4.45, S.D.=0.69)