การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สำหรับโรงเรียนโรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น
1. นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทดสอบความรู้ก่อนเรียน (Pretest) และเก็บข้อมูลการทดสอบตามแผนการจัดการเรียนรู้
2. นำแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้งหมด 5 เล่ม ไปดำเนินการจัดการเรียนรู้กับผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โดยใช้ควบคู่กับแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 22 แผน ซึ่งมีการเก็บข้อมูลดังนี้
2.1 เก็บข้อมูลคะแนนระหว่างทำกิจกรรมโดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2.2 เก็บข้อมูลคะแนนหลังเรียนของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
3. ผู้รายงานนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทดสอบความรู้หลังเรียน (Posttest) ตามแผนการจัดการเรียนรู้
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพของการทำแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (E1) มีค่าเท่ากับ 90.46 และประสิทธิภาพของการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (E2) มีค่าเท่ากับ 86.67 ดังนั้น ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง คือ 90.46/86.67
2. จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากคะแนนทดสอบก่อนเรียนและคะแนนทดสอบ หลังเรียน โดยการทดสอบค่าที (t-test) ของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน เท่ากับ 13.41 คะแนน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน เท่ากับ 26.00 คะแนน สรุปได้ว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอน แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์ เวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 48.12 คิดเป็นร้อยละ 96.24
ผลที่เกิดกับผู้เรียน
1. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง จำนวน 34 คน ทั้ง 5 เล่ม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 361.85 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.46 ของคะแนนเต็มและผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 86.67 ของคะแนนเต็ม ดังนั้นประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) มีค่าเท่ากับ 90.46/86.86.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนหลังจากการใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 26.00 สูงกว่าก่อนใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 12.59 และเมื่อทำการทดสอบด้วยสถิติทดสอบ t-test พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผู้เรียนมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ใส่ใจ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสามารถทำคะแนนหลังเรียนได้สูงขึ้น