|
|
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนหนองถ่มวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มี 4 ประเภท ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 10 แผน 2) บทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 10 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนรายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นข้อสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบแบบ 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี จำนวน 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านที่ 1 ด้านเนื้อหา , ด้านที่ 2 ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ , ด้านที่ 3 ด้านสื่อและอุปกรณ์ , ด้านที่ 4 ด้านการวัดและประเมินผล ด้านละ 5 ข้อ รวมทั้งหมด 20 ข้อ สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test
สรุปผลการศึกษา
1. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เท่ากับ เท่ากับ E1 = 82.14/ E2 = 84.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80 / 80 ที่ตั้งไว้
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีค่าเท่ากับ 0.6731 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้า ในการเรียนรู้ซึ่งมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.31
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดย ใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ค่าเฉลี่ยหลังเรียน = 42.65 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน = 20.12 นั่นคือ การจัดการเรียน การสอน โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียน
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการ เรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาบูรณาการ เรื่อง งานไม้ในบ้าน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โดยแบบประเมินแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านเนื้อหา มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.52 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.59 ระดับพึงพอใจมากที่สุด 2) ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.56 ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 3) ด้านสื่อและอุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52 ระดับความพึงพอใจมากที่สุด 4) ด้านการวัดและประเมินผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.53 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.53 ระดับความพึงพอใจมากที่สุดและมีค่าเฉลี่ยรวมทุกด้านเท่ากับ 4.52 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52 ระดับความพึงพอใจมากที่สุด
|
โพสต์โดย ดิเรก : [11 ก.ย. 2564 เวลา 05:23 น.] อ่าน [3730] ไอพี : 124.122.15.76
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 23,472 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,352 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,472 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,521 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,910 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,466 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,322 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,461 ครั้ง
| เปิดอ่าน 85,762 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,175 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,568 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,287 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,076 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,647 ครั้ง
| เปิดอ่าน 176,589 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 27,283 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,374 ครั้ง
| เปิดอ่าน 46,768 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,236 ครั้ง
| เปิดอ่าน 39,680 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|