ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

รูปแบบการเรียนการสอนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) รูปแบบวิจัยแบบเชิงทดลอง (Pre Experimented Design) โดยประยุกต์ใช้แบบแผนการทดลองแบบกลุ่มตัวอย่างมีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (The One – Group Pretest – Posttest Design) (มาเรียม นิลพันธุ์, 2555,หน้า 144) การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานใน การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติ การผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) โดยใช้ความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล ๑ (สหราษฎร์วิทยา) กองการศึกษา เทศบาลตำบลอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ 1) รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของแผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แบบวัดความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งผู้วิจัยได้แบ่งการดำเนินงานการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development D & D) การสร้างและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการนำไปใช้ (Implementation : I) การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินผล (Evaluation : E) การประเมินและปรับปรุง แก้ไขรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) สถิตที่แบบไม่อิสระ (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

สรุปผลการวิจัย

1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สรุปได้ว่ารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความสอดคล้องกับนโยบายการศึกษาในปัจจุบันเป็นการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน สามารถพัฒนานักเรียนให้เกิดทักษะปฏิบัติในตนเองเพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อน

2. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของแผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นขั้นตอนในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อน ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม ขั้นที่ 2 การสาธิตทักษะปฏิบัติ ขั้นที่ 3 การลงมือปฏิบัติจริง ขั้นที่ 4 การปรับปรุงและ การประยุกต์ใช้และขั้นที่ 5 การแสดงผลงาน จากประเมินความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรูปแบบ การเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติ การผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.70, =0.39) และการหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( ) เท่ากับ 87.17/87.83 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

3. การเปรียบเทียบความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การเรียนรู้พัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติการผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในงานภาพฉลุลายหลังการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (ลูกเสือสามัญ) เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะปฏิบัติ การผูกเงื่อนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.60, =0.55)

โพสต์โดย ้น้อง : [9 ก.ย. 2564 เวลา 08:00 น.]
อ่าน [3753] ไอพี : 1.179.242.151
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,292 ครั้ง
ตาบอดสี
ตาบอดสี

เปิดอ่าน 41,735 ครั้ง
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย
คำแนะนำสำหรับนักเรียน และ ครูผู้สอน ในการสอบ O-NET วิชาภาษาไทย รูปแบบข้อสอบอัตนัย

เปิดอ่าน 50,255 ครั้ง
‘คุณค่าของครู’ ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
‘คุณค่าของครู’ ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

เปิดอ่าน 23,965 ครั้ง
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ
แพทย์ชี้เด็กยิ่งเล่นยิ่งฉลาด แนะพ่อแม่ส่งเสริมการเล่นอย่างอิสระ 7 ประการ

เปิดอ่าน 24,289 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 11,185 ครั้ง
วิจัยพบการดื่ม "กาแฟ-ชา" อาจลดเสี่ยง "สโตรก-สมองเสื่อม"
วิจัยพบการดื่ม "กาแฟ-ชา" อาจลดเสี่ยง "สโตรก-สมองเสื่อม"

เปิดอ่าน 12,329 ครั้ง
"ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน" ใช้ ICT เพื่อปฏิรูปการเรียนรู้
"ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน" ใช้ ICT เพื่อปฏิรูปการเรียนรู้

เปิดอ่าน 18,796 ครั้ง
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 15,529 ครั้ง
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป
เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป

เปิดอ่าน 12,486 ครั้ง
คลิป ซึ้งๆ สอนให้รู้ว่า อย่าดูคนแค่ภายนอก
คลิป ซึ้งๆ สอนให้รู้ว่า อย่าดูคนแค่ภายนอก

เปิดอ่าน 12,603 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”

เปิดอ่าน 12,101 ครั้ง
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข
ข้อคิดก่อนเลี้ยงสุนัข

เปิดอ่าน 19,308 ครั้ง
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน

เปิดอ่าน 26,985 ครั้ง
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?

เปิดอ่าน 15,706 ครั้ง
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!

เปิดอ่าน 27,632 ครั้ง
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ
9 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบชิลๆ
เปิดอ่าน 38,334 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง! การประชุมทางไกล ระบบติดตามและประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
รับชมย้อนหลัง! การประชุมทางไกล ระบบติดตามและประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
เปิดอ่าน 45,665 ครั้ง
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)
เปิดอ่าน 13,040 ครั้ง
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน
"ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน
เปิดอ่าน 13,232 ครั้ง
ไส้เดือนดิน
ไส้เดือนดิน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ