บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการช่วยเหลือ
เด็กในสถานการณ์โดวิด- 19 ที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี (2) ศึกษาการบริหารจัดการช่วยเหลือเด็กโรงเรียนเทศบาล เด็กในสถานการณ์โดวิด- 19 ที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี (3) ศึกษาประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี (4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารจัดการช่วยเหลือนักเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรีและ (5) ศึกษาอิทธิพลของการบริหารจัดการช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์โดวิด- 19 ที่มีต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย คณะทำงานจำนวน 15 คน ครูจำนวน 46 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 96 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 82 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า มีความเชื่อมั่นตอนที่ 2 เท่ากับ 0.91 และตอนที่ 3 เท่ากับ 0.91 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ (r) และสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (R2)
ผลการวิจัยพบว่า
การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์โดวิด- 19 ที่มี
ประสิทธิผลของ โรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรีมี 9 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) ภาวะผู้นำของผู้บริหาร (2) เจตคติและความสามารถของครู (3) การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชน (4) การมีส่วนร่วมของนักเรียน (5) สื่อและเครื่องมือ (6) การวางระบบการบริหาร (7) การดำเนินงานตามระบบ (8) การนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลและ (9) คุณภาพนักเรียน ประกอบด้วย (9.1) การรู้จักตนเองและพึ่งพาตนเองได้ (9.2) สุขภาพกาย สุขภาพจิตและสุขนิสัยที่ดี (9.3) ทักษะในการหลีกเลี่ยงให้ปลอดภัยจากยาเสพติดและพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ (9.4) รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่นและสามารถจัดการกับปัญหาและอารมณ์ของตน (9.5) เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม และ (9.6) มีเจตคติที่ดีและมีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพอสิระ
2. การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์โดวิด- 19 ที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรี โดยรวมและทั้ง 9 องค์ประกอบมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก โดยมีการดำเนินงานตามระบบมีการปฏิบัติสูงสุด ส่วนการมีส่วนร่วมของนักเรียนมีการปฏิบัติต่ำสุด
3. ประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรีโดยรวมและทั้ง 6 องค์ประกอบมีคุณภาพอยู่
ในระดับมาก โดยนักเรียนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และสังคม มีคุณภาพสูงสุด ส่วนนักเรียนรู้จักตนเองและพึ่งพาตนเองได้มีคุณภาพต่ำสุด
4.การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์โควิด - 19 มี
ความสัมพันธ์ในทางบวกกับประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรีอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01
5. การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์การโควิด 19 มีอิทธิพล
ต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเทศบาล 2 มุขมนตรีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ถึงร้อยละ 44.30