ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยช

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่

21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ (อนุบาลในฝัน)

ผู้วิจัย นางศราภรณ์ หนูแก้ว

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นเด็กชายและหญิงชั้นอนุบาลปีที่ 3/4 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๖ (อนุบาลในฝัน) สำนักการศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 32 คน คนซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์ข้อมูลการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Groups) การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ (อนุบาลในฝัน) จำนวน 1 ฉบับ 2) รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๖ (อนุบาลในฝัน) 3) ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 4) แผนการจัดประสบการณ์ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมเสริมประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล

ปีที่ 3 5) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 และ 6) แบบประเมินความพึงพอใจของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าประสิทธิภาพ

ผลการวิจัยพบว่า

1. ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21

สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 โดยให้มีรูปแบบที่เหมาะสม มีกิจกรรมหลากหลาย

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีขั้นตอนที่สร้างขึ้น มีชื่อว่า “P7A Model” (พีเซเว่นเอ โมเดล) 7 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 เกริ่นนำ (Warm-up Activity : P1A) ขั้นที่ 2 เข้าสู่สิ่งที่ควรเรียนรู้ (Objectives and Purposes Activity : P2A) ขั้นที่ 3 การสร้างสถานการณ์เพื่อการสืบค้นหา (Encountering and Defining the Problem Activity : P3A) ขั้นที่ 4 การฝึกปฏิบัติโดยอิสระ (Independent Activity : P4A) ขั้นที่ 5 การหาข้อมูลและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (Data collection Activity : P5A) ขั้นที่ 6 การสื่อสาร (Explain Activity : P6A) และขั้นที่ 7 การตรวจสอบสิ่งที่เด็กได้เรียนรู้ (Checking for Learning Activity : P7A) มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.56/83.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

3. ระดับพัฒนาการหลังการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในศตวรรษที่ 21 สำหรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3 สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน โดยมีระดับพัฒนาการเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 7.43 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.26 ( = 7.43, S.D. = 0.26) คิดเป็นร้อยละ 61.91 และระดับพัฒนาการเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 10.07 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.34 ( = 10.07, S.D. = 0.34) คิดเป็นร้อยละ 83.92

4. เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.67 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.47

โพสต์โดย kratai : [7 ก.ย. 2564 เวลา 06:32 น.]
อ่าน [4003] ไอพี : 182.53.204.91
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,948 ครั้ง
กระบวนท่าแก้ปวดหลัง
กระบวนท่าแก้ปวดหลัง

เปิดอ่าน 17,369 ครั้ง
วิธีการลบบาง URL ออกจากช่อง Address
วิธีการลบบาง URL ออกจากช่อง Address

เปิดอ่าน 12,609 ครั้ง
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด

เปิดอ่าน 37,744 ครั้ง
ประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์
ประโยชน์ของการเลี้ยงสัตว์

เปิดอ่าน 200,255 ครั้ง
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)

เปิดอ่าน 108,719 ครั้ง
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ ๒๑ : ไทยแลนด์ ๔.o

เปิดอ่าน 99,085 ครั้ง
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 9,721 ครั้ง
นักโภชนาการชี้ อย่าตระหนกกินเนื้อแดง-ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูป ก่อมะเร็ง แนะหม่ำหลากหลาย
นักโภชนาการชี้ อย่าตระหนกกินเนื้อแดง-ผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูป ก่อมะเร็ง แนะหม่ำหลากหลาย

เปิดอ่าน 22,325 ครั้ง
ทำไมจึงเรียกขนมจีน
ทำไมจึงเรียกขนมจีน

เปิดอ่าน 12,965 ครั้ง
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน
12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน

เปิดอ่าน 17,033 ครั้ง
การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร
การศึกษาเพื่อสร้างบัณฑิตเป็น‘ผู้นำสังคม’ : โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร

เปิดอ่าน 22,118 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ

เปิดอ่าน 44,390 ครั้ง
โมเดลกระดาษ
โมเดลกระดาษ

เปิดอ่าน 33,949 ครั้ง
ปลาหมอไทยในบ่อเลี้ยงไม่ยาก ราคาดี
ปลาหมอไทยในบ่อเลี้ยงไม่ยาก ราคาดี

เปิดอ่าน 14,562 ครั้ง
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook

เปิดอ่าน 11,457 ครั้ง
กลุ่มคน 1%ของโลก ครอบครองทรัพย์สินกว่าครึ่งโลก
กลุ่มคน 1%ของโลก ครอบครองทรัพย์สินกว่าครึ่งโลก
เปิดอ่าน 9,662 ครั้ง
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
ดื่มชาดำหรือเขียวประจำวันละ3ถ้วย ปัดเป่าอัมพาตไกลร้อยละ21
เปิดอ่าน 11,746 ครั้ง
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17  :  29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้
มหกรรมไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 17 : 29 ต.ค.-1 พ.ย. นี้
เปิดอ่าน 24,875 ครั้ง
เรื่องของ"เลข 9" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009
เรื่องของ"เลข 9" ในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009
เปิดอ่าน 14,777 ครั้ง
รับชมที่นี่ "ครูภูเขา" รางวัลชนะเลิศ สปอตโทรทัศน์ "วันครู" ประจำปี 2559
รับชมที่นี่ "ครูภูเขา" รางวัลชนะเลิศ สปอตโทรทัศน์ "วันครู" ประจำปี 2559

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ