การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่าน อย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยการจัด การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานระหว่างก่อนการจัดการเรียนรู้และหลังการจัดการเรียนรู้ 5) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานระหว่างก่อนการจัดการเรียนรู้และหลังการจัดการเรียนรู้ 6) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนโนนโพธิ์ศรีวิทยาคม จำนวน 13 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (overline{mathrm{X}}) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มี 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหา ขั้นที่ 2 ทำความเข้าใจกับปัญหา ขั้นที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า ขั้นที่ 4 สังเคราะห์ความรู้ ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินค่าหาคำตอบ และขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน และความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ประกอบด้วย 1) จับใจความสำคัญ 2) ตีความ 3) วิเคราะห์ และ 4) ประเมินค่า
2. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 87.18/84.23 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7329 หรือร้อยละ 73.29 แสดงว่านักเรียนมีคะแนนความก้าวหน้าทางการเรียนจริง คิดเป็นร้อยละ 73.29 ของคะแนนความก้าวหน้าสูงสุดที่เป็นไปได้
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหา มีความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
6. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุป การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ของนักเรียน ทั้งในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและความพึงพอใจต่อการเรียน จึงควรส่งเสริมให้ครูผู้สอนนำไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาการจัดการเรียนรายวิชาภาษาไทยให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไป