ชื่ออวิจัย การสอนซ่อมเสริม โดยใช้แบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกฎการนับเบื้องต้น
ของนักเรียนเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ผู้วิจัย นางสาวสุรีย์วรรณ ทองเกื้อ
ตำแหน่ง ครู
สังกัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน นักเรียน 32 คน ระยะเวลาที่ใช้ ในการวิจัยทั้งสิ้น 2 เดือน โดยเริ่มทำการวิจัย ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563 และเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2563 โดยมีการทดสอบก่อนใช้แบบฝึกทักษะและการทดสอบหลังใช้แบบฝึกทักษะ แล้วนำคะแนนเฉลี่ยทั้งก่อนใช้แบบฝึกทักษะและหลังใช้แบบฝึกทักษะมาเปรียบเทียบ พบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน
คำสำคัญ : แบบฝึกทักษะ
ที่มาและความสำคัญ
ปัจจุบันพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ไม่ประสบผลสำเร็จในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เท่าที่ควรซึ่งสาเหตุที่ ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ประสบผลสำเร็จในการเรียนคณิตศาสตร์เท่าที่ควรนั้น อันเนื่องมาจากปัจจัย แวดล้อมหลายอย่าง เช่น ลักษณะของธรรมชาติวิชาที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม ซึ่งประกอบด้วยสัญลักษณ์ อาศัยการคิดที่เป็นแบบแผนมีขั้นตอนและมีเหตุผล (สิริพร ทิพย์คง. 2544 : 1) สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ปัญหาที่พบคือ การการแก้โจทย์ปัญหาต่าง ๆ ในเรื่องของกฎการนับเบื้องต้น ทั้งนี้อาจเป็น เพราะเนื้อหาที่ยาก ซึ่งเนื้อหาเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้านักเรียนเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดีจะทำให้การเรียนใน ม.5-6 และระดับอุดมศึกษา ได้ง่ายขึ้น จากประสบการณ์การสอนที่ผู้วิจัยได้ปฏิบัติหน้าที่การสอนมาพบปัญหา คือ ผู้เรียนขาดความรู้ และวิธีการนำทฤษฎีบทไปใช้แก้โจทย์ปัญหา
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนเรียนและการทดสอบหลังเรียน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ หมายถึง การจัดการเรียนการสอน โดยการสอนเนื้อหาให้ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ ก่อน แล้วให้ทำแบบฝึกทักษะที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
2. แบบฝึกทักษะ หมายถึง แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องกฎการนับเบื้องต้นที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
วิธีดำเนินการวิจัย
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 98 คน จากจำนวน 3 ห้องเรียน
1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 32 คน
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย ได้แก่
2.1 แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง กฎการนับเบื้องต้น
2.2 แบบฝึกทักษะ เรื่อง กฎการนับเบื้องต้น
2.3 แบบทดสอบ เรื่อง กฎการนับเบื้องต้น
3. การเก็บรวบรวมข้อมูล
1.ชี้แจงให้นักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างทราบถึงการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่องกฎการนับเบื้องต้น เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
2. นำแบบทดสอบ เรื่อง กฎการนับเบื้องต้น จำนวน 25 ข้อ ไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง แล้ว บันทึกคะแนน ที่ได้รับจากการทดสอบครั้งนี้เป็นคะแนนก่อนเรียน (Pretest)
3. ทบทวนเนื้อหาเรื่องกฎการนับเบื้องต้น การแก้โจทย์ปัญหาของกฎการนับเบื้องต้น
4. นำแบบฝึกทักษะ เรื่องกฎการนับเบื้องต้นให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ โดยการสอนซ่อม เสริมในคาบกิจกรรมโฮมรูมใช้เวลา 1 คาบ โดยในแต่ละแบบฝึกผู้สอนและนักเรียนจะตรวจคำตอบ ร่วมกันและอภิปรายเพื่อเพิ่มความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามอย่างต่อเนื่อง
5.ทำแบบทดสอบเรื่องกฎการนับเบื้องต้น และบันทึกผลการทดสอบให้เป็นคะแนนหลังเรียน (Posttest) 6.ตรวจให้คะแนนแบบทดสอบ เรื่องกฎการนับเบื้องต้นแล้วนำคะแนนที่ได้วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยของคะแนนต่อไป
4. การวิเคราะห์ข้อมูล / สถิติที่ใช้ในการวิจัย
4.1 การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Mean) จากสูตร (ไพศาล วรคำ, 2552 : 311) ดังนี้
x ̅=(∑_(i=1)^n▒〖x_i 〗)/n
เมื่อ x ̅ แทน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
∑▒x_i แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม
n แทน จำนวนคนทั้งหมด
4.2. ค่าร้อยละความก้าวหน้าของผลการเรียนรู้
จากสูตร คะแนนเฉลี่ยร้อยละ =((∑▒〖x_2-∑▒x_1 〗)×100)/คะแนนเต็ม
เมื่อ ∑▒x_2 แทน ผลรวมคะแนนเฉลี่ยของคะแนนทดสอบหลังเรียนทั้งหมด
∑▒x_1 แทน ผลรวมคะแนนเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนเรียนทั้งหมด
ผลการวิจัย
ตารางแสดง คะแนนแบบทดสอบ เรื่องกฎการนับเบื้องต้นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลัง
การฝึกด้วยแบบทักษะ
เลขที่ คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน 25 คะแนน คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน 25 คะแนน
1 16 20
2 7 17
3 9 19
4 5 23
5 4 22
6 9 23
7 4 20
8 7 18
9 8 19
10 12 17
ตารางแสดง คะแนนแบบทดสอบ เรื่องกฎการนับเบื้องต้นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลัง
การฝึกด้วยแบบทักษะ(ต่อ)
เลขที่ คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน 20 คะแนน คะแนนแบบทดสอบหลังเรียน 20 คะแนน
11 7 18
12 12 23
13 9 16
14 4 18
15 9 18
16 9 21
17 8 18
18 11 19
19 15 22
20 9 21
21 2 17
22 5 24
23 9 20
24 11 20
25 7 20
26 6 22
27 6 21
28 13 24
29 7 19
30 18 19
31 14 18
32 11 19
x ̅ (x_1 ) ̅=283/32=8.84 (x_2 ) ̅=635/32=19.84
คะแนนเฉลี่ยร้อยละ =((635-283))/800×100=44
จากตารางพบว่า คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย 8.84 และคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 19.84 โดยมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 44
สรุปผลการวิจัย
จากผลการศึกษาเรื่องสอนซ่อมเสริม โดยใช้แบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องกฎการนับเบื้องต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 32 คน พบว่าคะแนนสอบก่อนเรียนสูง กว่าคะแนนสอบหลังเรียน ประโยชน์และข้อเสนอแนะ ประโยชน์ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ เรื่องกฎการนับเบื้องต้นสูงขึ้น ข้อเสนอแนะ นำสื่อการสอนที่เป็นรูปธรรมและน่าสนใจก่อให้เกิดความรู้ เพื่อให้นักเรียนฝึกปฏิบัติอย่าง ชัดเจนเกี่ยวกับทักษะที่ต้องการฝึก ซึ่งจะทำให้นักเรียนสนใจมากยิ่งขึ้น ควรมีการสอนซ่อมเสริมให้กับ นักเรียนที่เรียนรู้ช้าเป็นกรณีพิเศษ สามารถส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนรูปแบบนี้เพื่อพัฒนาสู่การเรียนรู้แบบ STEM ได้
อ้างอิง/บรรณานุกรม
ไพศาล วรคำ. การวิจัยทางการศึกษา. กาฬสินธุ์ : ประสานการพิมพ์, 2552.
สิริพร ทิพย์คง. การวิจัยการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ปีการศึกษา 2521 2542.
กรุงเทพฯ ภาควิชาการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2544.