การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาวผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสันติวิทยา ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนในการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาวของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสันติวิทยา และ3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำ สระเสียงยาว ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสันติวิทยา
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนสันติวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 13 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาว จำนวน 22 แผนการจัด การเรียนรู้ จำนวน 22 ชั่วโมง 2) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาว จำนวน 5 เล่ม ประกอบด้วยเล่มที่ 1 เรื่อง สระอา มาหา เล่มที่ 2 เรื่อง สระอี มีดี เล่มที่ 3 เรื่อง สระอู ซู่ซ่า เล่มที่ 4 เรื่อง สระเอ เก๋ไก๋ และเล่มที่ 5 เรื่อง สระโอ โอ้โฮ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 20 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาว
ผลที่ได้รับ
1. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาว กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสันติวิทยา ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.38/88.46 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. หลังจากการเรียนเมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาว พบว่าผู้เรียนผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีคะแนนหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนมีคะแนน 17.69 คิดเป็นร้อยละ 88.46
3. ผลความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำสระเสียงยาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนสันติวิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 มีค่าเฉลี่ย 4.56 ส่วนเบี่ยงเบน 0.57 อยู่ในระดับ มากที่สุด
ข้อเสนอแนะ
1. สถานศึกษาควรสนับสนุนให้มีการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำในหลายๆ ระดับชั้น โดยเฉพาะในช่วงชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นระดับต้นๆ เพราะแบบฝึกทักษะช่วยให้ผู้เรียน มีทักษะในการอ่านและการเขียนมากขึ้น ผู้เรียนได้รับประโยชน์จากการฝึกปฏิบัติจริง
2. ควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกปฏิบัติทบทวนความรู้ด้วยตนเองจากการใช้แบบฝึกทักษะซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะกระบวนการเรียนรู้อย่างแท้จริง
3. ครูผู้สอนควรมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนและผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เรียนเกิด ความมั่นใจในการเรียน