|
|
บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายของการวิจัยนี้ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง คลื่นกล ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง คลื่นกล 2)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง คลื่นกล โดยมีวิธีดำเนินการกับกลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 30 คนได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง(Purposive sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง คลื่นกล 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียนวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง คลื่นกล 3) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง คลื่นกล วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง คลื่นกล ของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นกิจกรรมที่เน้นให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวช่วยให้นักเรียนฝึกการใช้กระบวนการศึกษาด้วยตนเอง นำเสนอผลงาน ส่งผลให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นและกล้าแสดงออก และเหมาะสมในการจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์อีกด้วย
2. ผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง คลื่นกล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีพัฒนาการสัมพัทธ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 84.00
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ 2 เรื่อง คลื่นกล โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง คลื่นกล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (M=3.78) โดยประเด็นในเรื่องการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (M=4.36) รองลงมาได้แก่ นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ (M=3.88) นักเรียนเกิดความสนุกสนาน (M=3.76) นักเรียนเข้าใจเป้าหมายของชุดกิจกรรม (M=3.76) และระยะเวลาการทำชุดกิจกรรม (M=3.76) ตามลำดับ
|
โพสต์โดย krujoy : [5 ก.ย. 2564 เวลา 14:10 น.] อ่าน [3680] ไอพี : 14.207.72.224
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 25,209 ครั้ง
| เปิดอ่าน 47,674 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,730 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,289 ครั้ง
| เปิดอ่าน 3,224 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,234 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,886 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,807 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,675 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,701 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,917 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,696 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,575 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,538 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,534 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 19,105 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,328 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,333 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,238 ครั้ง
| เปิดอ่าน 64,542 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|