ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อสมการอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของนักเ

ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา

คณิตศาสตร์เป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญที่มีบทบาทต่อการพัฒนาบุคคลเพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณิตศาสตร์มีความสำคัญต่อมนุษย์ในการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้วิชาอื่นๆ ความสำคัญและวิสัยทัศน์ของกลุ่มสาระคณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนามนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล มีระบบระเบียบ มีแบบแผนสามารถวิเคราะห์ปัญหาคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจแก้ปัญหาได้ถูกต้องเหมาะสมและเป็นเครื่องมือในการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ตลอดจนศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง (สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา,2553,หน้า2)

ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จัดได้ว่ามีความสำคัญต่อการเรียนรู้ แต่ผลการประเมินคุณภาพของนักเรียนพบว่าได้ผลยังไม่น่าพอใจนั่นก็แสดงว่าการเรียนการสอนเท่าที่ผ่านมายังไม่ประสบผลสำเร็วเท่าที่ควร คือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ยังอยู่ในระดับต่ำและมีนักเรียนไม่ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์เป็นจำนวนมาก คณิตศาสตร์เป็นการเรียนรู้ที่เป็นนามธรรม และใช้สัญลักษณ์มากมายเข้าใจยากน่าเบื่อ และเป็นวิชาที่ต้องทำแบบฝึกหัดมากกว่าวิชาอื่น ดังกฎฝึกหัดของธอร์นไดค์(ทิศนา แขมมณี,2557,หน้า51) ซึ่งกล่าวได้ว่าการฝึกหัดหรือทำบ่อยๆ ด้วยความเข้าใจจะทำให้การเรียนรู้นั้นคงทนถาวร ถ้าไม่ได้กระทำซ้ำบ่อยๆ การเรียนรู้นั้นไม่คงทนถาวร ดังนั้นทักษะทาง คณิตศาสตร์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีแบบฝึกหัดให้ผู้เรียนได้ทบทวน ได้ฝึกฝนในสิ่งที่เรียนรู้มาและฝึกฝนการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความเคยชินต่อการแก้ปัญหาตามจุดประสงค์ที่หลักสูตรตั้งไว้ จากสภาพปัญหาและแนวคิดดังกล่าวผู้วิจัยสนใจที่พัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง อสมการอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้แบบฝึกทักษะเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้นได้ ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของของโรงเรียนต่อไป

วัตถุประสงค์การวิจัย

1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานเรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ

2. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อสมการอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

แนวคิด ทฤษฎี หลักการ เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ผู้วิจัยศึกษางานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อสมการอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ความหมายของแบบฝึกทักษะ ไพบูลย์ มูลดี. (2546, หน้า 48) ให้ความหมายของแบบฝึกทักษะว่า แบบฝึกเป็นชุดการเรียนรู้ที่ครูจัดทำขึ้น ให้ผู้เรียนได้ทบทวนเนื้อหาที่เรียนรู้มาแล้วเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจจะช่วยเพิ่มทักษะความชำนาญ และช่วยฝึกทักษะการคิดให้มากขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ในการลดภาระครู ผู้เรียนทำให้เรียนมองเห็นความก้าวหน้าจากผลการเรียนรู้ของตนเองได้

บุญชม ศรีสะอาด (2543,หน้า 23) ได้กล่าวไว้ว่า สื่อที่แตกต่างกัน อาจช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้ต่างกัน และสื่อชนิดเดียวกันถ้าจัดทำแตกต่างกัน ก็อาจมีประสิทธิภาพในการช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้ต่างกัน และสื่อชนิดเดียวกันถ้าจัดทำแตกต่างกัน ก็อาจมีประสิทธิภาพในการช่วยให้เกิดการเรียนรู้ในจุดประสงค์ และเนื้อหาสาระอย่างเดียวได้ไม่เท่ากัน จึงจำเป็นต้องพัฒนาและเลือกสื่อที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์นั้น เพื่อทราบว่าสื่อการสอนมีคุณภาพและมีคุณค่าหรือไม่ระดับใด

นฤชล ศรีมหาพรหม(2549,หน้า 34) ได้กล่าวไว้ว่า ความสำคัญของการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญของการผลิตแบบฝึกทักษะ ทำให้ทราบว่าแบบฝึกทักษะนั้นมีคุณภาพมากเพียงใด มีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร ช่วยให้บรรลุจุดประสงค์ของการสอนได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เพื่อจะนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพต่อไป

วิธีดำเนินการ

ประชากร

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จำนวน 2 ห้องเรียน (ม3/8, ม.3/10 )จำนวนนักเรียนทั้งหมด 95 คน

กลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย โดยสุ่มอย่างง่าย จำนวนนักเรียน 48 คน

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

1. ทำการทดสอบก่อนเรียนด้วยแบบทกสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

2. ดำเนินกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามขั้นตอนในแผนการจัดการเรียนรู้ และใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน

3. ทำการทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกับก่อนเรียนแต่สลับข้อ

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย/นวัตกรรม

1. แผนการจัดการเรียนรู้สำหรับใช้กับชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว โดยใช้แบบฝึกทักษะ

2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก

การวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้ในการวิจัย

การวิเคราะห์ข้อมูล

วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยโดยใช้สูตร t-test-Dependent

สถิติที่ใช้ในการวิจัย

1. การหาค่าเฉลี่ย (Mean)

2. ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

3. เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน จากค่าแจกแจง t แบบ Dependent

ผลการวิจัย

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ข้อเสนอแนะ

1. การจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ ควรใช้แบบฝึกจากง่ายไปหายาก และนักเรียนสามารถทราบผลทันที เพื่อทราบความก้าวหน้าของตนเอง

2. ควรมีการสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ในระดับชั้นอื่นๆ

ประโยชน์ที่ได้รับ

1. เป็นแนวทางในการสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะ วิชาคณิตศาสตร์เรื่องอื่น สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต่อไป

2. เป็นแนวทางสำหรับครูคณิตศาสตร์ในการสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะ ในระดับชั้นอื่นๆต่อไป

โพสต์โดย แหม่ม : [4 ก.ย. 2564 เวลา 18:32 น.]
อ่าน [3280] ไอพี : 171.7.217.61
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 36,540 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ

เปิดอ่าน 14,235 ครั้ง
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร
ปรัชญาการศึกษา คือแก่นของหลักสูตร

เปิดอ่าน 59,475 ครั้ง
หมึกปากกา ทำมาจากอะไร
หมึกปากกา ทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 17,882 ครั้ง
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย
อาถรรพณ์..สุวรรณภูมิ 12 พญายักษ์..ส่งพลังร้าย

เปิดอ่าน 75,353 ครั้ง
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 78,745 ครั้ง
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 9,698 ครั้ง
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย
สอนลูกรู้จักใช้จ่าย

เปิดอ่าน 13,365 ครั้ง
ปฏิทินศิลปวัฒนธรรมในรอบปี 2552
ปฏิทินศิลปวัฒนธรรมในรอบปี 2552

เปิดอ่าน 10,516 ครั้ง
เปิดกลุ่มงานเงินเดือนดี๊ดีสำหรับคนเก่งภาษา
เปิดกลุ่มงานเงินเดือนดี๊ดีสำหรับคนเก่งภาษา

เปิดอ่าน 17,521 ครั้ง
eco car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน
eco car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน

เปิดอ่าน 33,210 ครั้ง
เรื่องควรรู้ก่อนทาสี
เรื่องควรรู้ก่อนทาสี

เปิดอ่าน 26,931 ครั้ง
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม

เปิดอ่าน 6,872 ครั้ง
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที
เช็คด่วน! 13 แอปฯ อันตราย "ดูดเงิน-สอดแนม" มีอะไรบ้าง ลบทิ้งทันที

เปิดอ่าน 16,777 ครั้ง
กำแพงกั้นเสียง
กำแพงกั้นเสียง

เปิดอ่าน 17,849 ครั้ง
ประโยชน์ของ "ผักแพว"
ประโยชน์ของ "ผักแพว"

เปิดอ่าน 11,429 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี สู้หวัด2009
ฟ้าทะลายโจร แจกฟรี สู้หวัด2009
เปิดอ่าน 17,387 ครั้ง
ทำงานมาก็หลายปีแล้ว ควรจะมีเงินเก็บเท่าไหร่กัน? ลองคำนวณดูเลย
ทำงานมาก็หลายปีแล้ว ควรจะมีเงินเก็บเท่าไหร่กัน? ลองคำนวณดูเลย
เปิดอ่าน 11,935 ครั้ง
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน
เปิดอ่าน 17,767 ครั้ง
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่
7 วิธี"เอื้อเฟื้อ"เพื่อนบ้านอย่างง่าย พลิกให้ชุมชนน่าอยู่
เปิดอ่าน 15,067 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ