ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

อเรื่อง การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม

ชื่อเรื่อง การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย

ผู้ศึกษา นางสาวจีรภัสร์ บัวสุวรรณ

ปีที่ศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรม จริยธรรมที่ดีและเกิดจิตสํานึกในการบําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศพร้อมทั้งมีจิตอาสาทำงานให้ผู้อื่นด้วยกำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาโดยไม่หวังผลตอบแทน เกิดกลุ่มกิจกรรมจิตอาสาในโรงเรียน กำเนิดศูนย์ครอบครัวพอเพียงที่มีนักเรียนแกนนำของโรงเรียน ศูนย์ครอบครัวพอเพียง หมายถึง ศูนย์รวมคนดีคนที่มีศรัทธาความดีในตนเอง เชื่อมั่นในคำสอนของพ่อ 5 คำ 5 ข้อ ที่พ่อสอน พร้อมที่แบ่งปันความดี ด้วยใจอาสาเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของผู้อื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน (เอกสาร : มูลนิธิครอบครัวพอเพียง) ดังคำขวัญของโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย “ มานะสร้างนิสัย วินัยสร้างศักดิ์ศรี ซื่อสัตย์ สร้างความดี สามัคคีสร้างพลัง ” และสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของโรงเรียนที่ว่า “เก่ง ดี มีคุณธรรม” ผู้วิจัยจึงมีความสนใจในการปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้อที่ 8 เรื่อง จิตสาธารณะ โดยนำมาเป็นแนวทางสร้างการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ให้สูงขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้เกิดกับผู้เรียนบรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ต่อไป เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้ามีดังนี้

1.แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 4 แผน ได้แก่ การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ประกอบด้วย

1.บุคคลที่เป็นต้นแบบด้านจิตอาสา จำนวน 3 คาบ

2.พัฒนาโรงเรียนด้วยมือเรา จำนวน 3 คาบ

3.แบ่งสิ่งดีดีให้กับคนอื่น จำนวน 3 คาบ

4.ทำวันนี้ให้ดีที่สุดจากระเบียนความดี(Fact For Life) จำนวน 3 คาบ

2.แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบปรนัยและอัตนัย ชนิดเลือกตอบ จำนวน 5 ตัวเลือกและบรรยาย โดยจำแนกเป็นรายแผนการจัดการเรียนรู้

3.แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่อง จิตสาธารณะ

สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาค่า KR-20 ของ คูเดอร์-ริชาร์ดสัน(Kuder-Richardson) หาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้และการหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์การเรียนรู้และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจ

ผลการศึกษา ปรากฏดังนี้

1.ผู้เรียนที่เรียนการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ซึ่งเป็นตามสมมติฐานที่กำหนดไว้

2.ประสิทธิภาพการพัฒนาชุดการสอน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรื่องจิตสาธารณะ

ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน พิบูลวิทยาลัย ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 เมื่อรวมทั้งหมด 4 เรื่อง ได้เท่ากับ

E1/ E2 = 95.63 /91.31 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งและเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้

3. ผู้เรียนมีการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ 8 เรื่อง จิตสาธารณะในการบําเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศและอาสาทำงานให้ผู้อื่นด้วยกำลังกาย กำลังใจและกำลังสติปัญญาโดยไม่หวังผลตอบแทน ได้ร้อยละเท่ากับ 74.17 ค่าเฉลี่ย 2.23 อยู่ในระดับดี

จากผลการวิจัย สรุปได้ว่า การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ E1/ E2 = 95.63 /91.31 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 สามารถที่จะช่วยให้นักเรียนศึกษาได้ด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนที่อาศัยการเรียนรู้ที่หลากหลายมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมในลักษณะส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรมจริยธรรม กิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมอาสาพัฒนาหรือกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมโดยนักเรียนสามารถดําเนินการด้วยตนเองในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคม ความดีงาม ซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความเสียสละ และมีจิตสาธารณะ และผู้เรียนที่ใช้แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง จิตสาธารณะ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม(Homeroom) อยู่ในระดับดี เมื่อนำไปจัดการเรียนรู้ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนสูงขึ้นเมื่อนำการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือไปประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่าชุดการสอน มีระดับคุณภาพในระดับมาก จากผลการทดลองพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เหตุที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะ ผู้วิจัยได้มีการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านจิตสาธารณะ โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ ในคาบกิจกรรมชุมนุมและกิจกรรมโฮมรูม (Homeroom) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อย่างมีระเบียบแบบแผนเป็นไปตามขั้นตอนของการพัฒนานอกจากนี้ในกระบวนการของการพัฒนาได้ผ่านการตรวจสอบและประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน จึงส่งผลให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือมีคุณภาพ และมีประสิทธิผลเมื่อนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้

โพสต์โดย เจี๊ยบ : [1 ก.ย. 2564 เวลา 20:33 น.]
อ่าน [64595] ไอพี : 49.49.158.150
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,419 ครั้ง
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน
เตือนอย่าทดลองแมงมุมหม้ายดำ รักษานกเขาไม่ขัน

เปิดอ่าน 25,363 ครั้ง
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี

เปิดอ่าน 34,791 ครั้ง
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 14,190 ครั้ง
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?

เปิดอ่าน 17,449 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย

เปิดอ่าน 134,479 ครั้ง
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)
การเรียนการสอนผ่านเว็บ (Web-Based Instruction)

เปิดอ่าน 9,770 ครั้ง
สำรวจบ้าน-พิชิตโรค
สำรวจบ้าน-พิชิตโรค

เปิดอ่าน 37,717 ครั้ง
การวิจัยด้วยเทคนิคเดลฟาย
การวิจัยด้วยเทคนิคเดลฟาย

เปิดอ่าน 14,540 ครั้ง
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค

เปิดอ่าน 21,519 ครั้ง
ท่าบริหารไหล่และแขนคนทำงาน
ท่าบริหารไหล่และแขนคนทำงาน

เปิดอ่าน 22,645 ครั้ง
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)

เปิดอ่าน 12,272 ครั้ง
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้  ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"
พ่อ-แม่เลี้ยงลูกให้เก่งแบบนี้ได้อย่างไร? รายการ ดูให้รู้ ตอน "เจ้าหนูยอดมนุษย์"

เปิดอ่าน 13,821 ครั้ง
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้

เปิดอ่าน 18,187 ครั้ง
แนวทางการประเมินคุณภาพรอบสี่
แนวทางการประเมินคุณภาพรอบสี่

เปิดอ่าน 37,917 ครั้ง
ข้าวหอมมะลิไทยได้แชมป์ข้าวโลก
ข้าวหอมมะลิไทยได้แชมป์ข้าวโลก

เปิดอ่าน 16,114 ครั้ง
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
วัดป่าที่แม่ฮ่องสอนดังทั่วโลก ต่างชาติแห่เรียนสมาธิปีละกว่า 2 พันคน
เปิดอ่าน 33,734 ครั้ง
ประโยชน์ของ e-Learning
ประโยชน์ของ e-Learning
เปิดอ่าน 19,763 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน
การประยุกต์ทฤษฎีการแพร่กระจาย การปรับปรุงโปรแกรมสื่อในโรงเรียน
เปิดอ่าน 11,349 ครั้ง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง
เปิดอ่าน 21,326 ครั้ง
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?
จังหวัดไหนมีความสุขมากที่สุดในประเทศไทย ปี 2557?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ