ครูบ้านนอก

ชื่อเรื่องวิจัย การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและการหา

พจน์ทั่วไปของลำดับ ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะและ

การ เสริมแรง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2

ชื่อผู้วิจัย นางสาวทิพวรรณ แซ่ขอ ตำแหน่ง ครู

สถานที่ทำการวิจัย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภูเก็ต ระนอง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ปีที่วิจัย 2563

_____________________________________________________________

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและการหาพจน์ทั่วไปของลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและการหาพจน์ทั่วไปของลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 35 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื้อหาที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ คือ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 4 รหัสวิชา ค32102 เรื่อง ลำดับและการหาพจน์ทั่วไปของลำดับ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบฝึกทักษะ และแบบสอบถามความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

ผลการวิจัยครั้งนี้ จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแล้ว ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ลำดับและการหาพจน์ทั่วไปของลำดับ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอน ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนร้อยละ 60 ขึ้นไป อยู่ในเกณฑ์ปานกลางขึ้นไป ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของสมมติฐานการวิจัยที่ได้ตั้งไว้ และนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนการสอน ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะและการเสริมแรง ทำให้นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ร้อยละ 70 ขึ้นไป ที่อยู่ในเกณฑ์ระดับดีขึ้นไป ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของสมมติฐานการวิจัยที่ได้ตั้งไว้ และทำให้เกิดผลการเรียนรู้ที่ดีขึ้นบรรลุวัตถุประสงค์การทำวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้

เว็บน่าสนใจ