ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ

เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้น

อนุบาลปีที่ 3

ผู้วิจัย นางรัตนรัตน์ ธนกาญจน์สิริภัค

สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ปีการศึกษา 2563 เป็นการวิจัยและพัฒนา (research and development) ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน คือ 1) การวิจัย (Research) :การศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2) การพัฒนา (Development) : การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 3) การวิจัย (Research) : การศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 4) การพัฒนา (Development) : การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ 3/4 โรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 26 คน แบบแผนในการวิจัย ใช้การทดลองแบบ แผนการทดลอง One Group Pre –test Design โดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 เป็นแผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 15 แผน 2) แบบทดสอบเพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นแบบประเมินเพื่อเสริมสร้างทักษะทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน อายุ 5-6 ปี ลักษณะข้อสอบเป็นสถานการณ์ประกอบรูปภาพ 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่ 1 ทักษะการสังเกต ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนกประเภท ชุดที่ 3 ทักษะการวัด ชุดที่ 4 ทักษะการสื่อความหมาย 3) แบบสอบถามความพึงพอใจในการเรียน เป็นแบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 1 ชุด 10 ข้อ มุ่งพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนทางวิทยาศาสตร์ โดยการศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล 1 “สุรินทร์วิทยาคม” ระดับปฐมวัย หนังสือ เอกสาร ตำรา ความคิดเห็นและข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบบสอบถามความพึงพอใจ เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 แล้วนำมาพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีเนื้อหา จำนวน 3 หน่วย 15 กิจกรรม คือ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง สัมผัสนิดคิดเรียนรู้ กิจกรรมที่ 1 ตาของฉันนั้นสดใส กิจกรรมที่ 2 จมูกมีไว้ใช้ดมกลิ่น กิจกรรมที่ 3 หูฟังเสียงให้ได้ยิน กิจกรรมที่ 4 ลิ้นชิมรสให้รู้ดี กิจกรรมที่ 5 มือไว้คลำทำให้รู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องคุณหนูรักต้นไม้ กิจกรรมที่ 6 ต้นไม้นี้เป็นที่รัก กิจกรรมที่7 ปลูกผักนะคุณหนู กิจกรรมที่ 8 รากดูดน้ำเลี้ยงต้นใบให้เชิดชู กิจกรรมที่ 9 มาเรียนรู้ใบไม้ใช้เป็นยา กิจกรรมที่ 10 สีสันสวยปลอดภัยใครช่างคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องน้ำแสนวิเศษ กิจกรรมที่ 11 ช่วยบอกนิดน้ำมาจากแห่งไหน กิจกรรมที่ 12 จมหรือลอยพิสูจน์หน่อยเป็นไร กิจกรรมที่ 13 น้ำเปลี่ยนไปตามรูปร่างช่างอัศจรรย์ กิจกรรมที่ 14 น้ำฟองสบู่ดูเพลินเกินเสกสรร กิจกรรมที่ 15 น้ำมีคุณต่อเรามากมายครัน ซึ่งในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ประกอบด้วยส่วนหน้า ได้แก่ คำนำ วัตถุประสงค์ การออกแบบการเรียนรู้ คำชี้แจงในการใช้คู่มือครู บทบาทของครู แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คู่มือการประเมิน แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่าง ภาพสถานการณ์ประกอบคำถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าสถิติ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทดสอบค่าที (t-test) แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) แล้วนำเสนอแบบพรรณาความและตาราง

สรุปผลการวิจัย

จากการวิจัยครั้งนี้สามารถสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3

ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้

1.1 ผลการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 เป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีความเหมาะสมที่จะนำไปจัดประสบการณ์การเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี เพราะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สามารถช่วยพัฒนาทักษะการเรียนได้และยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ครู นอกจากนี้การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ยังสามารถประเมินทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หลังจากการจัดประสบการณ์

1.2 ผลการวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 พบว่า หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เป็นหลักสูตรที่พัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดูและการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ตามศักยภาพภายใต้บริบทของสังคม–วัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้พัฒนาเด็กไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเองและสังคม นอกจากนี้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3– 6ปี มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล จึงกำหนดจุดหมายซึ่งถือเป็นมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยที่ดี กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้อย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กัน มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหวและรักการออกกำลังกาย ช่วยเหลือตนเองได้เหมาะสม กับวัย รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มีความสามารถในการคิดและการแก้ปัญหาได้เหมาะสมกับวัย มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีทักษะในการแสวงหาความรู้ ผลการศึกษาความคิดเห็นและความต้องการของผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูผู้สอน ผู้ปกครอง ประธานกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียนเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 พบว่า ผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มีตัวอย่าง ลักษณะของกิจกรรมที่ชัดเจน รูปภาพสวยสีสันเหมาะสมกับเด็กปฐมวัย กิจกรรมมีการเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การวัดผลและประเมินผลตรงตามจุดประสงค์ นอกจากเนื้อหาในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 แล้วควรเพิ่มเติมหรือแทรกเนื้อหาให้สอดคล้องกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในทุกกิจกรรมทั้ง 15 กิจกรรม การนำการจัดประสบการณ์กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ โดยการจัดเป็นกลุ่ม 4-5 คน เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ เรียนรู้ด้วยตนเองเป็นรายบุคคล เรียนรู้แบบกลุ่มย่อย 2 คน มีการวัดผลและประเมินผลครอบคลุมด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ โดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องสัมผัสนิดคิดเรียนรู้ กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมตาของฉันนั้นสดใส การมองเห็น เครื่องมือที่ใช้ เพลงตา เครื่องเคาะจังหวะ ปริศนาคำทาย ไม้บล็อก กระจก กล่อง ไฟฉาย เทปกาว กระดาษ A4 สีน้ำ พู่กัน นอกจากนี้การจัดกิจกรรมในแต่ละกิจกรรมก็จะใช้เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมในแต่ละกิจกรรม

2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 พบว่า

2.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.02/82.69 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์และสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

2.2 ผลการทดสอบเพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ประเมินก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 การทดสอบหลังการจัดประสบการณ์ ("X" ̅ =16.53 , S.D. = 1.18) คิดเป็นร้อยละ 82.69 ก่อนการจัดประสบการณ์ ("X" ̅ =9.92 , S.D. = 1.76) คิดเป็นร้อยละ 49.62 การทดสอบหลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 โดยมีค่า t เท่ากับ 16.52*

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 กับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/4 จำนวน 26 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล 1“สุรินทร์วิทยาคม” เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 26 คน จำนวน 15 ชั่วโมง ไม่รวมการทดสอบเพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ร่วมกิจกรรม มีความสนใจ กระตือรือร้น มีความสุข สนุกกับการเรียน มีความรับผิดชอบในการเรียนรู้ มีทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แบบบูรณาการที่นำมาจัดประสบการณ์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาประกอบการเรียนรู้

4. ผลการประเมินความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์

การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน

ชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 2.52 , S.D.= 0.69) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.69 แสดงว่า นักเรียนมีความพึงพอใจมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อนักเรียนมีความพึงพอใจมาก จำนวน 6 ข้อ พึงพอใจปานกลาง จำนวน 4 ข้อ

โพสต์โดย ครูบี : [30 ส.ค. 2564 เวลา 18:19 น.]
อ่าน [3805] ไอพี : 134.196.6.247
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,411 ครั้ง
วิธีทาลิปกลอสให้สวย
วิธีทาลิปกลอสให้สวย

เปิดอ่าน 48,695 ครั้ง
15 วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย
15 วิธีแก้เคราะห์ สะเดาะกรรมให้ร่ำรวย

เปิดอ่าน 12,162 ครั้ง
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"
ผลสำรวจชี้มนุษย์ทำงาน 63% เห็นว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันเป็นเรื่อง "ล้าสมัย"

เปิดอ่าน 7,660 ครั้ง
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)
ความคิดสร้างสรรค์ (จบ)

เปิดอ่าน 10,236 ครั้ง
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด
การซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด

เปิดอ่าน 33,003 ครั้ง
11 ผู้นำ ... ที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดในโลก ( ยุคปัจจุบัน )
11 ผู้นำ ... ที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดในโลก ( ยุคปัจจุบัน )

เปิดอ่าน 14,217 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ
ตูนส์ศึกษา : ทำไม O-NET ไม่เอาเรื่องจริงในชีวิตไปออกข้อสอบ

เปิดอ่าน 41,891 ครั้ง
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันเกิด

เปิดอ่าน 19,097 ครั้ง
ฮอร์โมน : ชีววิทยา
ฮอร์โมน : ชีววิทยา

เปิดอ่าน 25,661 ครั้ง
มาตรฐานของ e-learning
มาตรฐานของ e-learning

เปิดอ่าน 23,234 ครั้ง
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด
วัคซีนที่ผู้ใหญ่ควรฉีด

เปิดอ่าน 60,349 ครั้ง
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50

เปิดอ่าน 3,719 ครั้ง
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ

เปิดอ่าน 32,613 ครั้ง
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 22,020 ครั้ง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง

เปิดอ่าน 143,107 ครั้ง
สูตรลูกบิด สูตรรูบิค Rubik
สูตรลูกบิด สูตรรูบิค Rubik's Cube
เปิดอ่าน 16,714 ครั้ง
7 เหตุผลที่ทำให้คุณหิวโหยและอ้วน
7 เหตุผลที่ทำให้คุณหิวโหยและอ้วน
เปิดอ่าน 22,573 ครั้ง
มดใช้อะไรดมกลิ่น
มดใช้อะไรดมกลิ่น
เปิดอ่าน 15,728 ครั้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง
15 ประโยชน์ของน้ำอัดลมกับงานบ้าน ที่รู้แล้วจะอึ้ง
เปิดอ่าน 17,715 ครั้ง
ผลมะเฟือง กินดี ควบคุมน้ำหนัก
ผลมะเฟือง กินดี ควบคุมน้ำหนัก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ