ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) เพื่อนำรูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ไปทดลองใช้ และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยมีรายละเอียดคือ 4.1) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนจากแบบประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม 7 ด้าน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลัง ด้วยรูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" และ 4.2) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 1 (กบินทร์ราษฎรอำรุง) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลตำบลกบินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยสุ่มคือห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) รูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ที่ใช้รูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 21 แผน ใช้เวลา 21 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 30 ข้อ และ 2) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test Dependent Samples)

ผลการวิจัย พบว่า

การวิจัยเรื่อง “การพัฒนารูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" พบว่า นโยบายการจัดการศึกษาของประเทศไทยต้องการให้ ผู้เรียนมีทักษะในการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีความรู้พื้นฐานทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ มีทักษะพื้นฐานตามสมรรถนะที่สำคัญ 5 ประการ ประกอบด้วย ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีทักษะชีวิตและทักษะการทำงาน 4 ประการ ประกอบด้วย การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ การจัดการกับอารมณ์และความเครียด และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น มีคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ ประกอบด้วย รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิ หน้าที่ เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมทั้งส่งเสริมศาสนา ศิลปะ จากการวิเคราะห์สภาพที่คาดหวังของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 พบว่าสภาพที่คาดหวังที่ต้องการให้ผู้เรียนควรมีประกอบไปด้วยคุณลักษณะ 13 ประการ ได้แก่ 1) มีทักษะในการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต 2) มีทักษะในการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต 3) มีทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา 4) มีทักษะการสื่อสาร 5) รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและทักษะการร่วมมือ 6) จิตใจมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ และมีระเบียบวินัย 7) เรียนรู้ในศาสตร์วิทยาการสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย 8) รับผิดชอบต่อสังคม เคารพกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน 9) มีค่านิยมที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม 10) เรียนรู้การรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากภูมิอากาศและภัยพิบัติ 11) มีความรู้และทักษะในการดูแลสุขภาพของ ตนเอง ครอบครัว และชุมชน 12) มีนิสัย ใฝ่เรียนรู้และรัก การอ่าน 13) ภูมิใจในวัฒนธรรมไทยและยอมรับความแตกต่างของความคิด

2. รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการและองค์ประกอบเชิงเงื่อนไข การนำรูปแบบไปใช้ องค์ประกอบเชิงกระบวนการมีการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นตั้งคำถาม Q - Question 2) ขั้นวางแผนค้นหาคำตอบ P- Plan 3) ขั้นดำเนินการค้นหาคำตอบ A - Activity 4) ขั้นสรุปและนาเสนอผลการค้นคว้า R - Report ผลการตรวจคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ได้ค่าความเหมาะสมสอดคล้องมีค่าเฉลี่ย ตั้งแต่ 4.80 – 5.00 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตั้งแต่ 0.00-0.45 ซึ่งแสดงว่ารูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมสอดคล้องเชิงโครงสร้าง สามารถนำไปทดลองใช้ได้ และผลการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) โดยการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมเท่ากับ 85.08/83.00 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

3. หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอน เพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีพฤติกรรมด้านคุณธรรม 7 ด้าน ของกลุ่มตัวอย่าง โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงมากและสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ( = 4.37,S.D.= 0.87) เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 3 ประเด็นที่นักเรียนมีความเห็นด้วยสูงสุดได้แก่ ข้อที่ 9 คือ รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" ช่วยส่งเสริมคุณธรรมให้แก่ผู้เรียนได้ ( = 4.50,S.D.= 0.82) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 10 คือ นักเรียนปรับตัวเข้ากับสังคมและใช้ในชีวิตประจำวันได้ ( =4.47,S.D.=0.78) ส่วนประเด็นที่นักเรียนมีความเห็นด้วยอันดับสุดท้าย คือข้อที่ 5 นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง ( = 4.23,S.D.= 0.90)

4.1 หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนกลุ่มขยายผลมีพฤติกรรมด้านคุณธรรม 7 ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงมากและสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

4.2 รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมของนักเรียนกลุ่มขยายผลก่อนและหลังการเรียนการสอน ผลการหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมเท่ากับ 84.90/83.57 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

4.3 นักเรียนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" ด้วยรูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมมีความเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ( = 4.43, S.D.= 0.84) เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 3 ประเด็นที่นักเรียนมีความเห็นด้วยสูงสุดได้แก่ ข้อที่ 9 คือ รูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมคุณธรรม เรื่อง สอนหนูเป็นเด็กดี ด้วยกระบวนการ "QPAR" ช่วยส่งเสริมคุณธรรมให้แก่ผู้เรียนได้ ( = 4.60, S.D.= 0.72) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ 3 คือ นักเรียนมีโอกาสสนทนาซักถามเมื่อเกิดข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจ ( = 4.33, S.D.= 0.96) ส่วนประเด็นที่นักเรียนมีความเห็นด้วยอันดับสุดท้าย คือ ข้อที่ 8 นักเรียนสามารถสรุปและนำเสนอผลการค้นคว้าได้ ( = 4.27, S.D.= 0.87)

โพสต์โดย ครูตู่ : [29 ส.ค. 2564 เวลา 09:20 น.]
อ่าน [66213] ไอพี : 223.206.221.5
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 133,399 ครั้ง
ความหมายของวัฒนธรรม
ความหมายของวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 90,460 ครั้ง
ปล้นสะดม หรือ ปล้นสดมภ์  กันแน่
ปล้นสะดม หรือ ปล้นสดมภ์ กันแน่

เปิดอ่าน 12,604 ครั้ง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น

เปิดอ่าน 31,973 ครั้ง
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน
น่าชื่นชม!!เด็กม.3รับแปลภาษาจีนรายได้ร่วม3หมื่นต่อเดือน

เปิดอ่าน 17,788 ครั้ง
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ
การศึกษาชำรุด-เด็กไม่รู้จักตัวเอง ปรับระบบสอบแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ

เปิดอ่าน 9,967 ครั้ง
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน
นอนมากเกิน-น้อยเกิน เสี่ยงเบาหวาน

เปิดอ่าน 12,118 ครั้ง
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%
วิธีแก้ง่วง....เวลาทำงาน ได้ผล 100%

เปิดอ่าน 922 ครั้ง
คลินิกดูดไขมันที่ปลอดภัยควรมีลักษณะอย่างไร?
คลินิกดูดไขมันที่ปลอดภัยควรมีลักษณะอย่างไร?

เปิดอ่าน 32,465 ครั้ง
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่
วิธีดูว่าไข่เน่าหรือไม่

เปิดอ่าน 390,958 ครั้ง
Adverbs ( กริยาวิเศษณ์ ) Types (ชนิดของกริยาวิเศษณ์ )
Adverbs ( กริยาวิเศษณ์ ) Types (ชนิดของกริยาวิเศษณ์ )

เปิดอ่าน 17,881 ครั้ง
เงิน กับ ธรรมะ
เงิน กับ ธรรมะ

เปิดอ่าน 16,965 ครั้ง
กิน เล่น เต้น วาด สุดยอดวิชาพัฒนาเด็ก
กิน เล่น เต้น วาด สุดยอดวิชาพัฒนาเด็ก

เปิดอ่าน 15,550 ครั้ง
วินโดวส์วิสต้าน่าใช้ยังไง?
วินโดวส์วิสต้าน่าใช้ยังไง?

เปิดอ่าน 25,184 ครั้ง
"ว่านกาบหอย" ไม่ใช่แค่ไม้ประดับแต่เป็นยาสมุนไพร
"ว่านกาบหอย" ไม่ใช่แค่ไม้ประดับแต่เป็นยาสมุนไพร

เปิดอ่าน 11,052 ครั้ง
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 9,823 ครั้ง
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก
อะโดบีเผยเอเชีย-แปซิฟิกใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตสูงสุดในโลก
เปิดอ่าน 11,753 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44
จดหมายฉบับที่ 57 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง จุดเด่นการใช้มาตรา 44
เปิดอ่าน 25,513 ครั้ง
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
เปิดอ่าน 25,687 ครั้ง
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
เปิดอ่าน 58,001 ครั้ง
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?
กองทุนเพื่อความเสมอภาค ทางการศึกษา...คืออะไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ