ชื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้
กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกับแนวคิดความผูกพันต่อองค์กร
ที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ ยุติธรรมวิทยา
ผู้วิจัย นายวิทยา อำพล ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ ยุติธรรมวิทยา สังกัดสำนักการศึกษา
เทศบาลนครสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพและความต้องการจำเป็นสำหรับการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การดำเนินการแบ่งเป็น 4 ระยะ โดยระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพและความต้องการจำเป็นสำหรับการพัฒนาครู ระยะที่ 2เป็นสร้างและพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของร่างรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ระยะที่ 3 เป็นการศึกษาผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครู ที่นำไปทดลองใช้ในสถานการณ์จริง และระยะที่ 4 เป็นระยะของการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ ดำเนินการวิจัยในปีการศึกษา 2563 กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ร่วมสนทนากลุ่มเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการพัฒนาครู เป็นผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 คน ผู้บริหาร จำนวน 2 คน กลุ่มเป้าหมายสำหรับการทดลองใช้และตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการพัฒนาครู เป็นครูโรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ ยุติธรรมวิทยา ที่สอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 23 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 290 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัยระยะที่ 1 คือ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพ และความต้องการจำเป็นของครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ระยะที่ 2 ใช้แบบตรวจสอบร่างรูปแบบ และคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาครู และแบบตรวจสอบเครื่องมือประเมิน ระยะที่ 3 เป็นระยะของการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาครู เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย 1) แบบทดสอบวัดความรู้ ความเข้าใจของครูผู้สอน เรื่อง กิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2) แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นครู เรื่อง การอบรมเชิงปฏิบัติการ 3) แบบประเมินทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 4) แบบบันทึกกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share & Learn) 5) แบบบันทึกการสะท้อนผลเพื่อพัฒนา (After Action Review : AAR) และระยะที่ 4 เป็นการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบเพื่อให้ได้รูปแบบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) เครื่องมือการวิเคราะห์คุณภาพของผู้เรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้แก่ (1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ (2) แบบทดสอบวัดความรู้พื้นฐาน (O-NET) ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ประจำปีการศึกษา 2563 (3) แบบประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนของสถานศึกษา ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้แก่ 1) แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรและตามข้อกำหนดของสถานศึกษา 2) แบบวัดความผูกพันที่มีต่อองค์กรของครู และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครู และประเด็นการสนทนากลุ่ม เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบการพัฒนาครู การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (%) การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกับแนวคิดความผูกพันต่อองค์กรที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน ประกอบด้วย เอกสาร ทฤษฎี ทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ คือ ครูรวมตัวกันเป็นชุมชน ทำหน้าที่เป็นผู้นำและมีแนวปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง และปฏิรูปวัฒนธรรมการทำงานของครู และความผูกพันต่อองค์กรเป็นความรู้สึกของกลุ่มสมาชิกที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในองค์กร สภาพการปฏิบัติและความต้องการของครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พบว่าโดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก ( = 3.92, S.D. = 0.57)
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกับแนวคิดความผูกพันต่อองค์กรที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน พบว่ารูปแบบการพัฒนาครูที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นมีชื่อว่า PASA Model มีองค์ประกอบ 7 ประการ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 แนวคิด องค์ประกอบที่ 2 หลักการ องค์ประกอบที่ 3 วัตถุประสงค์ องค์ประกอบที่ 4 ปัจจัยนำเข้า องค์ประกอบที่ 5 กระบวนการพัฒนาครู ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ (1) เตรียมความพร้อม (Prepare) (2) การปฏิบัติงานร่วมกัน (Attend) (3) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share & Learn) (4) การทบทวนสู่การพัฒนา (After Action Review) องค์ประกอบที่ 6 การวัดและประเมินผล และ องค์ประกอบที่ 7 ปัจจัยการสนับสนุน ผลการตรวจสอบคุณภาพด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการพัฒนา พบว่าในภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ( = 4.54, S.D. = 0.66) และความเป็นไปได้ ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = 0.74) และผลการตรวจสอบคุณภาพของคู่มือการใช้รูปแบบในภาพรวมพบว่ามีความเหมาะสมในระดับมาก ( = 4.40, S.D. = 0.50) และความเป็นไปได้ในระดับมาก ( = 4.45, S.D. = 0.50)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกับแนวคิดความผูกพันต่อองค์กรที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ ยุติธรรมวิทยา พบว่า
3.1 ครูมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่อง กิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 หลังการอบรมตามรูปแบบการพัฒนาครูมีคะแนนพัฒนาการ(ความก้าวหน้า) คิดเป็นร้อยละ 14.93
3.2 ครูมีทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดับมาก
( = 4.38, S.D. = 0.49)
3.3 คุณภาพผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประกอบด้วย
3.3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่มีคะแนนเฉลี่ยพัฒนาการเพิ่มขึ้นคือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าร้อยละ 5.25 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 คิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าร้อยละ 3.28 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าร้อยละ 0.72 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีคะแนนพัฒนาการเฉลี่ยเพิ่มขึ้น คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าร้อยละ 2.19 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าร้อยละ 6.04 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศคิดเป็นคะแนนความก้าวหน้าร้อยละ 10.68
3.3.2 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน(O-NET) ปีการศึกษา 2563 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยพัฒนาขึ้น คิดเป็น 0.32 คะแนน
3.3.3 ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 6 ปรากฏว่า นักเรียนผ่านการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ระดับดีเยี่ยม โดยภาพรวม มีพัฒนาที่ดีขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.52
3.4 คุณภาพผู้เรียนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรและตามข้อกำหนดของสถานศึกษาปรากฏว่า นักเรียนผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรและตามข้อกำหนดของสถานศึกษา ระดับดีเยี่ยม โดยภาพรวม มีพัฒนาที่ดีขึ้นคิดเป็นร้อยละ 5.83
4. ผลการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการพัฒนาครูด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพร่วมกับแนวคิดความผูกพันต่อองค์กรที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน มีผลดังนี้
4.1 ความผูกพันที่มีต่อองค์กรของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.41, S.D.= 0.49)
4.2 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูฯ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.43, S.D.= 0.50)