ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยการประยุกต์แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ENJOY Model)
ชื่อผู้วิจัย นางสาวสุพัฒนุช ตุพิมาย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด โรงเรียนเทศบาล 2 อิสาณธีรวิทยาคาร กองการศึกษา เทศบาลเมืองบุรีรัมย์
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
สถานที่วิจัย โรงเรียนเทศบาล 2 อิสาณธีรวิทยาคาร
ปีที่วิจัย พ.ศ.2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยการประยุกต์แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ENJOY Model)
2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยการประยุกต์แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ENJOY Model) 3) เพื่อขยายผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้โดยการประยุกต์แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (ENJOY Model) โดยการผสมผสานวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและวิธีเชิงปริมาณ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ครูผู้สอน/ผู้เชี่ยวชาญในวิชาคณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษา และนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 2 อิสาณธีรวิทยาคารกองการศึกษา เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ปีการศึกษา 2563 จำนวน 152 คน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 37 คน กลุ่มขยายผลเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/3
ปีการศึกษา 2563 จำนวน 38 คน ได้มาโดยการใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แบบสอบถาม 3) รูปแบบการเรียนรู้โดยการประยุกต์แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) คู่มือการใช้รูปแบบ 5) แผนการจัดการเรียนรู้ 6) แบบทดสอบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและเชิงปริมาณ และวิเคราะห์ข้อมูลโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการเรียนรู้โดยการประยุกต์แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า ENJOY Model มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) หลักการ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยผ่านประสบการณ์ต่างๆ ที่ผู้เรียนได้รับไปเชื่อมโยงกับโครงสร้างความรู้ที่ผู้เรียนมีอยู่ และปรับกระบวนการคิดค้นหาวิธีการต่างๆ มาใช้ในการสร้างความเข้าใจจนเกิดเป็นความรู้ที่มีความหมายด้วยตนเอง ทำให้เกิดการเรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ (2) วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้แก่ 1)การกำหนดปัญหาจากโจทย์ 2)การเลือกยุทธวิธีแก้ปัญหา 3)การนำเสนอขั้นตอนแก้ปัญหา 4)การสรุปคำตอบ
(3) แนวคิดและทฤษฎี แนวคิดเชิงรุก (Active Learning) แนวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ ในการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์, ทฤษฎีการเรียนรู้ของกาเย กับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์, ทฤษฎีการเรียนการสอนของบรูเนอร์
ในการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์, ทฤษฎีของดีนส์ กับการเรียนการสอนคณิตศาสตร์, ทฤษฎีการเรียนรู้ของสกินเนอร์ ในการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และการจัดการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์รูปแบบต่างๆ และการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กัน (4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ENJOY Model ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ (4.1) การเตรียมความพร้อมโดยการให้กำลังใจ (Encouraging Preparation: E) (4.2) หมดความสงสัยในความรู้ (No Doubt in Knowledge: N) (4.3) การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย (Joining Various Activities: J)
(4.4) การสังเกตประสบการณ์การเรียนรู้ (Observing Learning Experience: O) (4.5) การให้ผลการเรียนรู้ (Yielding Learning Evaluation: Y) (5) การวัดและประเมินผล มี 2 ระยะ ดังนี้
(5.1) ก่อน/หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เป็นแบบทดสอบวัดความสามารถการแก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก (5.2) ระหว่างใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (5.2.1) แบบทดสอบแบบอัตนัยมีลักษณะเป็นคำถามปลายเปิด ใช้หลังจากการเรียนรู้ในแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6, 11, และ17 เสร็จสิ้น (5.2.2) แบบบันทึกการเรียนรู้สู่ชีวิตจริงใช้ประเมินทุกกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละเรื่อง โดยใช้เกณฑ์การประเมินความสามารถทางคณิตศาสตร์มี 5 ระดับ
2. ประสิทธิผลการใช้รูปแบบ พบว่านักเรียนมีความสามารถด้านการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ 1) การกำหนดปัญหาจากโจทย์ 2) การเลือกยุทธวิธีแก้ปัญหา 3) การนำเสนอขั้นตอนการแก้ปัญหา 4) การสรุปคำตอบทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังใช้รูปแบบ ENJOY Model สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ผลการขยายผลการใช้รูปแบบพบว่านักเรียนมีความสามารถการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ 1) การกำหนดปัญหาจากโจทย์ 2) การเลือกยุทธวิธีแก้ปัญหา 3) การนำเสนอขั้นตอนการแก้ปัญหา 4) การสรุปคำตอบทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังใช้รูปแบบ ENJOY Model สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05