ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่ผลงาน การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยบูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการ

ชื่องานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยบูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้วิจัย ษิญาภา บัวศรี

ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี โดยบูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อ เสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทาง วิทยาศาสตร์ของผู้เรียน เรื่องวัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (Research : R, ) 2. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยบูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของ ผู้เรียน เรื่องวัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (Development : D1) 3. เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยบูรณาการ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของผู้เรียน เรื่องวัสดุและ สสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (Research : R2) 4. เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย บูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้าง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ของ ผู้เรียน เรื่องวัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (Development : D2) เป็นลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนและหลัง (The One Group Pretest – Posttest Design) โดยใช้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร สังกัดเทศบาลเมืองตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ คู่มือการใช้รูปแบบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบ วัดความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) ค่าร้อยละ( ) ค่าที(t – test แบบ Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา(Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย บูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ คือมีการตรวจสอบความรู้เดิมของ ผู้เรียน นําเสนอสถานการณ์ปัญหา ตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ปัญหา รวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์ อย่างรอบด้าน แลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้อื่น และสรุปอ้างอิงข้อมูลหรือสรุปความรู้อย่างสมเหตุสมผล ครูมีบทบาทเป็นผู้ส่งเสริมให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเองและใช้คําถามกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ฝึกคิด พิจารณาข้อมูลอย่างสมเหตุสมผล เปิดโอกาสให้ผู้เรียนร่วมกันแก้ปัญหาทั้งกลุ่มเล็ก และกลุ่มใหญ่ 2)วัตถุประสงค์ของรูปแบบเพื่อพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจต่อการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาตร์ 3) กระบวนการเรียนการสอนตามรูปแบบประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ (1) ขั้นกระตุ้นให้คิด(2) ขั้นคิดพิจารณา(3) ขั้นสะท้อนความคิด(4) ขั้นนําแนวคิดไปใช้ 4)ผลที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนรู้ตามรูปแบบคือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 5)การประเมินผลรูปแบบ โดยใช้(1)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (2)แบบวัดความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ (3)แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (4)แบบสำรวจความพึงพอใจ โดยรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.29/82.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2.หลังเรียนตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย บูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ พบว่า 1.นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ และหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย บูรณาการทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแนวคิดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูวิ : [25 ส.ค. 2564 เวลา 18:47 น.]
อ่าน [3782] ไอพี : 27.145.176.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 60,243 ครั้ง
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก
ทีฆายุโก - ฑีฆายุโก

เปิดอ่าน 12,222 ครั้ง
ผลศึกษาดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวันช่วยสยบโรคตับได้
ผลศึกษาดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวันช่วยสยบโรคตับได้

เปิดอ่าน 22,804 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เปิดอ่าน 15,382 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 53,033 ครั้ง
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน

เปิดอ่าน 11,365 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว

เปิดอ่าน 17,269 ครั้ง
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว

เปิดอ่าน 5,746 ครั้ง
เกษตรผสมผสานและไร่นาสวนผสม
เกษตรผสมผสานและไร่นาสวนผสม

เปิดอ่าน 97,418 ครั้ง
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)

เปิดอ่าน 21,251 ครั้ง
ประเภทของระบบภาพกราฟิก
ประเภทของระบบภาพกราฟิก

เปิดอ่าน 3,617 ครั้ง
3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย
3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย

เปิดอ่าน 38,444 ครั้ง
ทำให้ถั่วฝักยาวมีฝักมาก
ทำให้ถั่วฝักยาวมีฝักมาก

เปิดอ่าน 649 ครั้ง
สีบนจอภาพคอมพิวเตอร์
สีบนจอภาพคอมพิวเตอร์

เปิดอ่าน 9,885 ครั้ง
วันเกิด มหาตมา คานธี
วันเกิด มหาตมา คานธี

เปิดอ่าน 6,689 ครั้ง
"ผักปลัง" ผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย มีประโยชน์
"ผักปลัง" ผักพื้นบ้าน ปลูกง่าย มีประโยชน์

เปิดอ่าน 10,950 ครั้ง
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน
หญิงไทยอายุต่ำกว่า 40 ปีเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 33.4 สูงกว่าหญิงมะกัน
เปิดอ่าน 21,270 ครั้ง
คลิปโฆษณาไทย ที่ซึ้งกินใจคนทั่วโลก
คลิปโฆษณาไทย ที่ซึ้งกินใจคนทั่วโลก
เปิดอ่าน 22,640 ครั้ง
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ
เลี้ยงปลามงคลเสริมโชคลาภ
เปิดอ่าน 12,725 ครั้ง
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี
สูตรการเรียนเก่ง จากท่าน ว.วชิรเมธี
เปิดอ่าน 7,194 ครั้ง
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ