บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวพินัน รัตนสุภา
โรงเรียน : โรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปีที่วิจัย : 2563
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสำรวจสภาพปัจจุบันและความต้องการการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 2) เพื่อออกแบบและสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช การดำเนินการวิจัยมี 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การสำรวจสภาพปัจจุบัน และความต้องการการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการสอบถามครูผู้สอน จำนวน 34 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน (ไม่นับรวมครูผู้สอนและผู้บริหารที่เป็นตัวแทนในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 2 คน) และผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 314 คน ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยตรวจสอบความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับอาจารย์มหาวิทยาลัย และผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 11 ท่าน ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเมินประสิทธิผลการบริหารสถานศึกษาโดยการสอบถามครูผู้สอน จำนวน 34 คน ตรวจสอบร้อยละของนักเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับ (2.50) ขึ้นไป ระหว่างปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 ระยะที่ 4 การประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สอบถามความพึงพอใจจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน
(ไม่นับรวมครูผู้สอนและผู้บริหารที่เป็นตัวแทนในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 2 คน) ครูผู้สอน จำนวน 34 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 41 คน ที่มีต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. สภาพปัจจุบันของการมีส่วนร่วมของครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียนในการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ส่วนรายด้านทุกด้านมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ยกเว้นด้านการบริหารงานทั่วไป ความคิดเห็นของครู มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ความต้องการของการมีส่วนร่วมของครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ยกเว้น ด้านการบริหารงานทั่วไปและด้านการบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นของครูมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด
2. รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีองค์ประกอบหลัก 4 ด้าน คือ ด้านวัตถุประสงค์ของรูปแบบ ด้านหลักการของรูปแบบ ด้านระบบงานและกลไกของรูปแบบ มีความเหมาะสม และความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านวิธีการดำเนินงานของรูปแบบ โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและการ
มีส่วนร่วมของผู้ปกครองนักเรียนมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผล ของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และร้อยละของนักเรียนที่มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับ (2.50) ขึ้นไป จำแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้
ปีการศึกษา 2562 สูงกว่าปีการศึกษา 2561 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด