|
|
ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ข้อมูลพื้นฐานโดยภาพรวมมีความเหมาะสม/สอดคล้องและเพียงพอกับการศึกษาเป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 1 โดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 กำหนดแนวทางการจัดการศึกษาให้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติจากสถานการณ์ต่างๆ และฝึกทักษะการคิด และจุดมุ่งหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีเป้าหมายของการศึกษาให้ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ และกระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาเต็มตามศักยภาพ และจากความคิดเห็นของนักเรียน พบว่า ต้องการเรียนรู้ที่ท้าทายสนุกสนานด้วยกระบวนการกลุ่ม ในส่วนของหัวหน้างานวิชาการโรงเรียนและครูหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีความคิดเห็นว่ายุทธศาสตร์ในการพัฒนาความสามารถในการคิดให้แก่นักเรียนนั้นต้องมุ่งเน้นการจัดการเรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติการคิดอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ และจากการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับครูผู้สอนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เห็นว่าปัจจัยสำคัญที่สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือ วิธีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงออกด้วยกิจกรรมเล่นปนเรียน เพื่อให้นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน จะสามารถเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาให้กับนักเรียนได้
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า รูปแบบการเรียนการสอน (GPCSE Model) ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างความสนใจ (Gaining Attention: G) ขั้นตอนที่ 2 การนำเสนอเนื้อหา (Presentation: P) ขั้นตอนที่ 3 การแก้ปัญหาเป็นกลุ่ม (Cooperative group: C) เป็นการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มฝึกคิดแก้ปัญหา 5 ขั้น คือ 1) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ 2) ระบุปัญหา 3) แสดงวิธีหาคำตอบ 4) ตรวจสอบคำตอบ และ 5) นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ขั้นตอนที่ 4 การแลกเปลี่ยนความคิด (Sharing: S) และขั้นตอนที่ 5 การประเมินผล (Evaluation: E) มีความเหมาะสม/สอดคล้องตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ โดยมีค่าความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 0.96 และจากการหาประสิทธิภาพโดยนำไปทดลองใช้ (Tryout) กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน พบว่า มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 82.50/84.00 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 2
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า จากการนำรูปแบบการเรียนการสอน (GPCSE Model) ไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาลเมืองเขาสามยอด ๑ สังกัดเทศบาลเมืองเขาสามยอด อำเภอเมืองเขาสามยอด จังหวัดสระบุรี จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) หลังการเรียนการสอนนักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าการทดสอบที (t-test dependent) เท่ากับ 36.346 โดยก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ย (X- ) เท่ากับ 18.83 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.17 และหลังเรียนเท่ากับ 38.03 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.15 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 3 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าการทดสอบที (t-test dependent) เท่ากับ 38.436 โดยมีคะแนนเฉลี่ย (X- ) ก่อนเรียน เท่ากับ 12.34 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.42 และหลังเรียนเท่ากับ 24.79 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.98 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 4
4. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (GPCSE Model) พบว่า หลังการจัดการเรียนการสอนนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอนในภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ย (X- ) เท่ากับ 2.82 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.08 เป็นไปตามสมมติฐานการวิจัยข้อที่ 5
|
โพสต์โดย นาถ : [13 ส.ค. 2564 เวลา 08:46 น.] อ่าน [3575] ไอพี : 171.4.161.171
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 13,971 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,267 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,849 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,868 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,320 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,817 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,906 ครั้ง
| เปิดอ่าน 28,009 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,310 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,156 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,967 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,235 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,744 ครั้ง
| เปิดอ่าน 95,072 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 21,400 ครั้ง
| เปิดอ่าน 68,921 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,726 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,494 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,535 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|