|
|
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียน การสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬา เปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความสามารถในการเล่นกีฬาเปตองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 5) เพื่อศึกษาเจตคติต่อกีฬาเปตองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 6) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬา เปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๕ (พหลโยธินรามินทรภักดี) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 5 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนทั้งหมด 220 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 45 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ด้วยวิธีการจับสลากชื่อห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตองและเจตคติต่อกีฬาเปตอง แผนการจัด การเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง แบบสอบถามเจตคติต่อกีฬาเปตอง และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ร้อยละ (%) และการทดสอบค่า t-test dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า CARCEO Model มีส่วนประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล และปัจจัยที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 6 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นสร้างความท้าทาย (Challenge : C) 2) ขั้นลงมือปฏิบัติ (Action : A) 3) ขั้นสะท้อนความรู้ (Reflection of Knowledge : R) 4) ขั้นสร้างนิสัย (Characterization : C) 5) ขั้นประเมินผล (Evaluation : E) 6) ขั้นการเผยแพร่ความรู้ (Obtaining : O) และรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.50/81.33 เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬา เปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.602 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 66.02
4. ความสามารถในการเล่นกีฬาเปตองของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬา เปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในเกณฑ์ระดับคุณภาพดี ( = 12.53, S.D.=0.91)
5. เจตคติต่อกีฬาเปตองของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับดีมาก ( = 4.55, S.D.=0.53)
6. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิด Active Learning เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเล่นกีฬาเปตอง และเจตคติต่อกีฬาเปตอง นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ บรรยากาศในการเรียนไม่ตึงเครียด รูปแบบการเรียนการสอนนี้สามารถพัฒนาวิธีการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมได้และเรียนรู้ได้ตลอดเวลา
|
โพสต์โดย โอปอ : [10 ส.ค. 2564 เวลา 20:17 น.] อ่าน [4299] ไอพี : 223.206.37.76
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,248 ครั้ง
| เปิดอ่าน 86,716 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,792 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,249 ครั้ง
| เปิดอ่าน 51,794 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,680 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,563 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,142 ครั้ง
| เปิดอ่าน 121,554 ครั้ง
| เปิดอ่าน 139,832 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,158 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,828 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,576 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,324 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,737 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 292,910 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,156 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,039 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,352 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,542 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|