ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของ
ซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี
ผู้วิจัย นางสำเนียง พริ้งเพราะ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริม ทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี ที่จัดการเรียนรู้ โดยรูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนครบุรี จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้หน่วยการสุ่มเป็นห้อง ซึ่งมีนักเรียนที่สมัครเป็นสมาชิกชุมนุมนาฏศิลป์มากกว่าห้องอื่น ๆ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน จำนวน 6 แผน มีค่าเฉลี่ยเป็นรายแผน ตั้งแต่ 4.50 ถึง 4.60 และมีค่าเฉลี่ยโดยรวม 4.58 2) แบบทดสอบแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ชุด การรำมังเมว แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.81 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93 3) แบบประเมินทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ ชุด การรำมังเมว มีค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบประเมินทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เท่ากับ 0.76 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy ) ตั้งแต่ 0.37 ถึง 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 79.35/76.77 ซึ่งสูเงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนครบุรี ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน มีทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะนาฏศิลป์ โดยใช้รูปแบบซิปปาและรูปแบบของซิมพ์ซัน มีความพึงพอใจโดยภาพรวม มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย ( = 4.60, S.D=0.59)