ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลวิธี การสอนแบบ CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ชื่องานวิจัย การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลวิธี

การสอนแบบ CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้วิจัย สุกัญญา กำเนิดจอก

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

งานวิจัยปี 2562

บทคัดย่อ

การรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการรายงานครั้งนี้ คือ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในรายงานครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/10 โรงเรียนสุรนารีวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 ปีการศึกษา 2562 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 48 คน ซึ่งได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการรายงานครั้งนี้ประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือแบบบูรณาการการอ่าน (CIRC) จำนวน 8 แผนๆ ละ 2 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านวิชาภาษาอังกฤษ (CIRC) จำนวน 1 ฉบับ เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และแบบประเมินการทำางานกลุ่มสำหรับการสอนแบบร่วมมือแบบบูรณาการอ่านภาษาอังกฤษ (CIRC)

การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่า t-test (Dependent) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ (%) การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่าน แผนการจัดการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความเหมาะสมและดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยาก (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt)

ผลการรายงานพบว่า

ผลการวิจัยเรื่องการพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC มีรายละเอียดดังนี้

1. ผลการเรียนรู้ด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC พบว่า ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลการเรียนรู้ด้านการอ่านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยผลการเรียนรู้ด้านการอ่านหลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้

ส่วนคะแนนพัฒนาของนักเรียนในแต่ละกลุ่มโดยเฉลี่ยทั้ง 8 แผน เท่ากับ 20.99 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับการพัฒนาเป็นกลุ่มเก่งมาก โดยแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีคะแนนการพัฒนาเฉลี่ยสูงที่สุด คือแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง Sushi Crosses the Pacific มีคะแนนพัฒนา 24.58 คะแนน อยู่ในระดับการพัฒนาเป็นกลุ่มเก่งมาก และแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีคะแนนการพัฒนาเฉลี่ยน้อย ที่สุด คือแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง Crops, Codes, and Controversy มีคะแนนพัฒนา 15 คะแนน อยู่ในระดับ การพัฒนาเป็นกลุ่มเก่ง

2. พฤติกรรมการทํางานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC จากการประเมินโดยครูผู้สอน พบว่า โดยภาพรวมพฤติกรรมในการทํางานกลุ่มของ นักเรียนมีค่าเฉลี่ยการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาพฤติกรรมการทํางานรายด้าน พบว่า พฤติกรรมที่ปฏิบัติในระดับมากเป็นลําดับที่ 1 คือการสร้างความคุ้นเคยไว้วางใจยอมรับซึ่งกันและกัน พฤติกรรมที่ปฏิบัติในระดับมากเป็นลําดับที่ 2 คือด้านการขจัดข้อขัดแย้ง พฤติกรรมที่ ปฏิบัติในระดับมากเป็นลําดับที่ 3 คือ การจูงใจ และพฤติกรรมที่มีการปฏิบัติมากเป็นลําดับสุดท้าย คือ การสื่อสารสื่อความหมาย

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC โดยภาพรวม นักเรียนเห็นด้วยมากที่สุดทั้ง 3 ด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่านักเรียนมีความคิดเห็นด้าน ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC อยู่ในระดับมากที่สุดเป็นลําดับที่ 1 เห็นด้วยมากที่สุดรองลงมา คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และด้านบรรยากาศการเรียนรู้ เห็นด้วย มากที่สุดเป็นลําดับสุดท้าย เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่าในด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการจัด การเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC ประเด็นที่นักเรียนเห็นด้วยมากที่สุดเป็นลําดับที่ 1 คือ การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC เหมาะสําหรับการสอนอ่านภาษาอังกฤษ ช่วยพัฒนาผลการเรียนรู้และทักษะการทํางานกลุ่มได้ดี และประเด็นที่นักเรียนเห็นด้วยมากเป็นลําดับสุดท้าย คือ นักเรียนสามารถนําวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือกันไปใช้ในการเรียนรู้วิชาอื่นได้ สําหรับด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประเด็นที่นักเรียนเห็นด้วยมากที่สุดเป็นลําดับที่ 1 คือ นักเรียนได้ร่วมกันเรียนรู้ และทํางานร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อเป้าหมายเดียวกัน และประเด็นที่นักเรียนเห็นด้วยมากเป็นลําดับ สุดท้ายคือ กิจกรรมการเรียนรู้ กระตุ้นให้นักเรียนกล้าถาม กล้าตอบคําถาม และกล้าแสดงความ คิดเห็นด้วยความมั่นใจ ส่วนด้านบรรยากาศการเรียนรู้ ประเด็นที่นักเรียนเห็นด้วยมากที่สุดเป็น ลําดับที่ 1 คือครูแสดงความเป็นกันเองกับนักเรียน และส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นใน การร่วมมือกันเรียนรู้ และประเด็นที่นักเรียนเห็นด้วยมากเป็นลําดับสุดท้าย คือ นักเรียนมีความ กระตือรือร้น ร่วมกันเรียนรู้เพื่อความสําเร็จของตนเองและของกลุ่ม

โพสต์โดย SUKANYA : [2 ส.ค. 2564 เวลา 08:26 น.]
อ่าน [4645] ไอพี : 1.1.228.219
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,805 ครั้ง
ว่านหางช้าง
ว่านหางช้าง

เปิดอ่าน 10,543 ครั้ง
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้
31 คุณสมบัติของคนประสบความสำเร็จ ที่อยากแชร์ให้โลกรู้

เปิดอ่าน 10,007 ครั้ง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นปี 2558 "เชือกวิเศษ" "รักนะเป็ดโง่" ติดอันดับดาวรุ่งพุ่งแรง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นปี 2558 "เชือกวิเศษ" "รักนะเป็ดโง่" ติดอันดับดาวรุ่งพุ่งแรง

เปิดอ่าน 22,808 ครั้ง
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิจัยพบ "สารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น" ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

เปิดอ่าน 13,552 ครั้ง
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา
เก็บหนังสือเก่าไม่ให้ขึ้นรา

เปิดอ่าน 32,520 ครั้ง
ไขปัญหาเกี่ยวกับ สถิติ วัดผล และวิจัย ตอนที่ 1
ไขปัญหาเกี่ยวกับ สถิติ วัดผล และวิจัย ตอนที่ 1

เปิดอ่าน 296,644 ครั้ง
อาณาเขตประเทศไทย
อาณาเขตประเทศไทย

เปิดอ่าน 17,156 ครั้ง
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก
ประวัติไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดบนโลก

เปิดอ่าน 15,104 ครั้ง
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร
ระบบสุริยะอาจสูญสลาย! เมื่อนักดาราศาสตร์พบปรากฏการณ์ "ดาวมรณะ" กลืนดาวบริวาร

เปิดอ่าน 30,150 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 18,718 ครั้ง
ความรู้เรื่องเมืองสยาม
ความรู้เรื่องเมืองสยาม

เปิดอ่าน 11,350 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร

เปิดอ่าน 97,527 ครั้ง
หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์
หลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์

เปิดอ่าน 31,861 ครั้ง
อาหรับ มาจากไหน?
อาหรับ มาจากไหน?

เปิดอ่าน 90,730 ครั้ง
ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร
ฮือฮา! รถใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร

เปิดอ่าน 14,191 ครั้ง
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เปิดอ่าน 86,655 ครั้ง
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
เปิดอ่าน 41,001 ครั้ง
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?
ทำไมต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจรับบ้าน?
เปิดอ่าน 14,913 ครั้ง
ดื่ม"กาแฟ"มากเกินไป เสี่ยงตายเพิ่มขึ้น
ดื่ม"กาแฟ"มากเกินไป เสี่ยงตายเพิ่มขึ้น
เปิดอ่าน 18,556 ครั้ง
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น
10 วิธีบำบัดเด็กสมาธิสั้น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ