ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย นางสุวรรณศรี จีรวิทย์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลสกลนคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่ศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model)
เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) ดังนี้ 2.1) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) 2.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) 2.3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) 2.4) เพื่อศึกษาจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) และ 3) เพื่อขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) กลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้รูปแบบเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/5 โรงเรียนอนุบาลสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 48 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) คู่มือการใช้รูปแบบ 3) เอกสารประกอบการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ จำนวน 18 เล่ม 4) แบบทดสอบวัดทักษะการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 จำนวน 40 ข้อ 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 6) แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 45 ข้อ และ 7) แบบประเมินจิตวิทยาศาสตร์ จำนวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบโดยใช้สถิติ t-test ชนิดกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระจากกัน (Dependent samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีชื่อว่า 3S3S Model
มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นเสนอสิ่งเร้า นำสู่การระบุคำถามสำคัญ ขั้นที่ 2 ขั้นแสวงหาสารสนเทศ นำสู่การวิเคราะห์ ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างความรู้ นำสู่การอภิปราย ขั้นที่ 4 ขั้นการสื่อสาร นำสู่การสะท้อนคิด ขั้นที่ 5 ขั้นสังคมรับรู้ นำสู่การประยุกต์ใช้ ขั้นที่ 6 ขั้นสรุป นำสู่การประเมินผล และ 4) การวัดและประเมินผล ผลการตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มีความสอดคล้องกันอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.61, S.D. = 0.51) และเมื่อนำไปหาประสิทธิภาพ (E1/ E2) ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เท่ากับ 82.63/82.79
2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) ที่พัฒนาขึ้น มีผลดังนี้
2.1 ทักษะการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.3 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบ
การจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) สูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2.4 จิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้
(3S3C Model) โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54,S.D= 0.13)
3. ผลการขยายผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (3S3C Model) จากผลการประเมินความคิดเห็นของครูในโรงเรียนขยายผลการใช้รูปแบบ โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
( = 4.52, S.D. = 0.14)