ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่สถานศึกษาพอเพียงของโรงเรียนเทศบาลวัดบูรพาภิราม สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมื

ชื่อเรื่อง การพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

สู่สถานศึกษาพอเพียงของโรงเรียนเทศบาลวัดบูรพาภิราม สังกัดสำนักการศึกษา

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

ชื่อผู้วิจัย นางฉันทรุจี พรมเกตุ

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลวัดบูรพาภิราม สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

จังหวัดร้อยเอ็ด

ปีที่วิจัย 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนาครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาพอเพียงของโรงเรียนเทศบาลวัดบูรพาภิราม สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อพัฒนาครูโรงเรียนเทศบาล วัดบูรพาภิราม สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ให้มีความรู้ความ เข้าใจ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ได้ ตามกรอบเนื้อหา 4 ขั้นตอน คือ 1) วิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา 2) กำหนดหน่วยการเรียนรู้ 3) จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และ 4) การนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research Principle) ตามแนวคิดของ Kemmis และ McTaggart ดำเนินการ 2 วงรอบ แต่ละวงรอบ ประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และ การสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 11 คน ประกอบ ด้วย ครูประจำชั้น ระดับปฐมวัย ประถมศึกษาปีที่ 1,2 ,3 ,4 ,5 และ 6 ซึ่งสอนในโรงเรียนเทศบาลวัดบูรพาภิราม สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 63 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน วิทยากร จำนวน 1 คน ศึกษานิเทศก์ จำนวน 1 คน และนักเรียน จำนวน 60 คน ได้จากการ เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ห้องละ 10 คนในอัตราส่วน 3 : 4 : 3 คือคนเก่ง 3 คน คนปานกลาง 4 คน และคนอ่อน 3 คน กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือ การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน แบบสังเกต และแบบสอบถาม การจัดกระทำข้อมูล และการตรวจสอบข้อมูลยึดหลักการตรวจสอบข้อมูล แบบ หลายมิติ (Triangulation) และนำเสนอผลการวิจัยโดยบรรยาย

ผลการวิจัยพบว่า

ผลการพัฒนาบุคลากรในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์ในการพัฒนา คือ การประชุม เชิงปฏิบัติการ และการนิเทศภายใน พบว่า ผู้ร่วมวิจัยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงและการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเมื่อวิทยากรทำการประเมินการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ผลปรากฏว่า กลุ่มผู้ร่วมวิจัยทั้ง 11 คน สามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ โดยมีผลการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้มีความเหมาะสมในระดับมาก และการนิเทศภายในจากวิทยากร ศึกษานิเทศก์และผู้อำนวยการโรงเรียน ทำการนิเทศแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้และนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกขณะทำการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประเมินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้คำแนะนำช่วยเหลือให้คำปรึกษาแก่กลุ่มผู้ร่วมวิจัยจนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5 ขั้นตอนได้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และในขั้นประเมินผลการเรียนรู้ให้ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้พบว่าครูขาดการวัดผลประเมินผลการเรียนที่ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการ ผลงานและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของผู้เรียน รวมถึงการเสนอแนะแนวทางที่ปฏิบัติแล้วเกิดผลดี กลุ่มผู้ร่วมวิจัยจึงวางแผนการดำเนินการพัฒนาบุคลากรด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของวงรอบที่ 2

ผลการพัฒนาบุคลากรในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การนิเทศภายใน พบว่า กลุ่มผู้ร่วมวิจัยสามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ของกรมวิชาการ 5 ขั้นตอนได้ดี สามารถกำหนดขอบเขตเนื้อหาที่จะสอน และออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับเวลา ลักษณะของกิจกรรมเน้นให้นักเรียน มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด มีการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสอดแทรก ในกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งกลุ่มผู้ร่วมวิจัยมีความมั่นใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถเชื่อมโยงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เข้ากับกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถสรุปองค์ความรู้ที่ได้จากกิจกรรมการเรียนรู้ให้เชื่อมโยงกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนที่ยึดครูเป็นศูนย์กลางมาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ และสามารถประเมินผลการเรียนรู้ให้ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ตามที่กำหนด โดยครูมีการประเมินผลตามสภาพจริงของผู้เรียน ครูวัดและประเมินผลโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเชื่อมโยงกับทักษะความรู้ กระบวนการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในระดับมาก

โพสต์โดย ศิริ : [25 ก.ค. 2564 เวลา 18:59 น.]
อ่าน [3105] ไอพี : 49.230.14.224
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,545 ครั้ง
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ

เปิดอ่าน 13,176 ครั้ง
LCD (Liquid Crystal Display)
LCD (Liquid Crystal Display)

เปิดอ่าน 24,812 ครั้ง
หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary storage Unit)
หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary storage Unit)

เปิดอ่าน 20,506 ครั้ง
ภาษาพูด
ภาษาพูด

เปิดอ่าน 21,470 ครั้ง
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ
ความรู้ ความเชื่อ และการปฏิบัติ

เปิดอ่าน 21,267 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?

เปิดอ่าน 13,920 ครั้ง
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย

เปิดอ่าน 19,449 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022

เปิดอ่าน 2,255 ครั้ง
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ

เปิดอ่าน 12,249 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"

เปิดอ่าน 17,452 ครั้ง
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!

เปิดอ่าน 9,224 ครั้ง
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ
ไทยอันดับ 3 ของเอเชีย ถ่ายเซลฟี่ในรถ

เปิดอ่าน 34,098 ครั้ง
ลายมือมหาเศรษฐี
ลายมือมหาเศรษฐี

เปิดอ่าน 15,453 ครั้ง
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม
ติดพนันเสียคนตอนแก่เนื่องมาจากเป็นเพราะสมองเสื่อมโทรม

เปิดอ่าน 16,990 ครั้ง
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?
ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?

เปิดอ่าน 19,494 ครั้ง
อาลัยการศึกษาไทย เก่งเจ๋งในกระดาษ
อาลัยการศึกษาไทย เก่งเจ๋งในกระดาษ
เปิดอ่าน 13,698 ครั้ง
ชาวเน็ตกดไลค์ คลิปน้องเจนพากย์เสียงเป๊ะเว่อร์มากๆ
ชาวเน็ตกดไลค์ คลิปน้องเจนพากย์เสียงเป๊ะเว่อร์มากๆ
เปิดอ่าน 9,414 ครั้ง
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
เปิดอ่าน 10,454 ครั้ง
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
เปิดอ่าน 21,314 ครั้ง
สื่อดังระดับโลกแห่ยกย่อง "โน้ต วีรฉัตร" ตีกลองกับภาพวาดกำแพง คนต่างชาติทึ่งความสามารถศิลปินไทย
สื่อดังระดับโลกแห่ยกย่อง "โน้ต วีรฉัตร" ตีกลองกับภาพวาดกำแพง คนต่างชาติทึ่งความสามารถศิลปินไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ