ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวน จริงและพหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student T

บทคัดย่อ

รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนจริงและ พหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student Teams Achievement Divisions (STAD) สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วัตถุประสงค์การวิจัยได้แก่ 1) เพื่อศึกษาปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ของครูที่สอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี 2) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนจริงและพหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student Teams Achievement Divisions (STAD) สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนจริงและพหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student Teams Achievement Divisions (STAD) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เพื่อหาค่าประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนจริงและพหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student Teams Achievement Divisions (STAD) สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนจริงและพหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student Teams Achievement Divisions (STAD) กลุ่มตัวอย่างได้แก่ 1) ครูผู้สอนคณิตศาสตร์ในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 60 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เฉพาะครูที่สอนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 2) ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนแก้งเหนือพิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 28 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบง่าย (Simple Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้

ในการศึกษาได้แก่ 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 19 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.8968 2) แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม จำนวน 10 แผน ค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.58 3) แบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม จำนวน 10 ชุด ค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.63 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนจริงและพหุนาม จำนวน 40 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าความยากอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.9284 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม จำนวน 14 ข้อ ค่าความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.71 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.9425 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และความพึงพอใจของนักเรียน ใช้แบบแผนการทดลองแบบ One Group Pre-test Post-test Design ทดสอบก่อนการทดลอง (Pre-test) ทดลองสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ (Treatment) และทดสอบหลังการทดลอง (Post-test) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ E1/E2 หาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ใช้ t-test ทดสอบสมมติฐานเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการจัดประสบการณ์ และเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ใช้ E.I. วิเคราะห์ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ ใช้ IOC วิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้สถิติของแบรนแนน (Brennan) หาค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้สถิติตามวิธีของโลเวท (Lovett) หาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และความพึงพอใจของนักเรียน (rcc) และใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (x̄ ) ร้อยละ (P) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการวิจัย พบว่า

1. โดยรวมปัญหาการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ของครู มีปัญหาค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄=4.03) เมื่อพิจารณาเป็นรายสถานะ พบว่า สถานะที่มีปัญหาค่าเฉลี่ยสูงสุดได้แก่ ครูวุฒิสูงกว่าปริญญาตรี มีปัญหาอยู่ในระดับมาก (x̄ =4.15) รองลงมาได้แก่ ครูเพศชาย และครูที่มีประสบการณ์การทำงาน 6 ปีขึ้นไป มีปัญหาอยู่ในระดับมาก เท่ากันทั้ง 2 สถานะ (x̄ =4.04) ส่วนสถานะที่มีปัญหาค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่ ครูที่มีวุฒิปริญญาตรี มีปัญหาอยู่ในระดับมาก (x̄ =3.89)

2. โดยรวมแผนการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 77.04 คิดเป็นร้อยละ 77.04 เมื่อพิจารณาเป็นรายแผนการจัดการเรียนรู้ พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.89 คิดเป็นร้อยละ 78.96 รองลงมาได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 และ 8 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.75 คิดเป็นร้อยละ 77.50 เท่ากันทั้ง 2 แผน ส่วนแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.54 คิดเป็นร้อยละ 75.36

3. ประสิทธิภาพกระบวนการ (E1) ของแบบฝึกทักษะ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 78.86 คิดเป็นร้อยละ 78.86 ประสิทธิภาพผลลัพธ์ (E2) ของแบบฝึกทักษะ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 30.43 คิดเป็นร้อยละ 76.07 ดังนั้น E1=78.86/ E2=76.07 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งเอาไว้

4. ประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะเท่ากับ 0.6564 แสดงว่าแบบฝึกทักษะ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือใช้เทคนิค Student Teams Achievement Divisions (STAD) สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชุดนี้ ทำให้ผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 65.64 สูงกว่าเกณฑ์ที่ยอมรับได้

5. การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 12.15 คะแนน และ 30.43 คะแนน ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งเอาไว้

6. ผู้เรียนชายมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม โดยรวมอยู่ในระดับมาก

( x̄=3.89) และผู้เรียนหญิงมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม โดยรวมอยู่ในระดับมาก

( x̄=3.64)

7. โดยรวมก่อนเรียนผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนด้วยต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม อยู่ในระดับน้อย ( x̄=2.17) และโดยรวมหลังเรียนผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนด้วยต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม อยู่ในระดับมาก (x̄ =4.28)

8. ความพึงพอใจของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง จำนวนจริงและพหุนาม ก่อนเรียนและหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.17 และ 4.28 ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างค่าเฉลี่ยความพึงพอใจก่อนและหลังเรียน พบว่า ค่าเฉลี่ยหลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งเอาไว้

โพสต์โดย นางสาววาสนา ใจเอื้อ : [25 ก.ค. 2564 เวลา 06:07 น.]
อ่าน [4159] ไอพี : 223.206.224.61
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,013 ครั้ง
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...
ผักที่มีรูจากแมลงใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป...

เปิดอ่าน 10,971 ครั้ง
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่

เปิดอ่าน 33,895 ครั้ง
ตำนานเมืองสุรินทร์
ตำนานเมืองสุรินทร์

เปิดอ่าน 92,081 ครั้ง
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ

เปิดอ่าน 6,824 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่5
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่5

เปิดอ่าน 29,858 ครั้ง
สิ่งมีชีวิตนอกโลก มีจริงหรือไม่
สิ่งมีชีวิตนอกโลก มีจริงหรือไม่

เปิดอ่าน 12,870 ครั้ง
ปัญหาของชาวโซเชียล เฟซบุ๊กกับภาวะซึมเศร้า
ปัญหาของชาวโซเชียล เฟซบุ๊กกับภาวะซึมเศร้า

เปิดอ่าน 13,725 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล

เปิดอ่าน 17,301 ครั้ง
ทำไม? คนเราถึงไม่ซื่อสัตย์
ทำไม? คนเราถึงไม่ซื่อสัตย์

เปิดอ่าน 79,635 ครั้ง
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด
วิธีการสอนนกแก้ว นกขุนทองพูด

เปิดอ่าน 8,665 ครั้ง
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
แนวทางการแก้ปัญหาผลกระทบภาวะถดถอยทางการเรียน ด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย

เปิดอ่าน 40,646 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?

เปิดอ่าน 9,863 ครั้ง
สร้างความสุขในการทำงาน
สร้างความสุขในการทำงาน

เปิดอ่าน 15,392 ครั้ง
ความรู้เรื่องวัฒนธรรม
ความรู้เรื่องวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 8,523 ครั้ง
อินเนอร์มาเต็ม! ครูไทยแต่งเพลง "ค่านิยม12ประการ" ถ้าไม่ทำจะท่องทำไม!? (คลิป)
อินเนอร์มาเต็ม! ครูไทยแต่งเพลง "ค่านิยม12ประการ" ถ้าไม่ทำจะท่องทำไม!? (คลิป)

เปิดอ่าน 26,244 ครั้ง
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
ความสำคัญของการศึกษาปฐมวัย
เปิดอ่าน 21,674 ครั้ง
การพัฒนาการศึกษาภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษที่ 21
การพัฒนาการศึกษาภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 16,783 ครั้ง
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
เปิดอ่าน 39,649 ครั้ง
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน
การแก้ระบบสมการ โดยใช้วิธีเมตริกผกผัน
เปิดอ่าน 8,320 ครั้ง
คัดเลือกคนจากสถาบัน
คัดเลือกคนจากสถาบัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ