บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
รายงานการประเมินโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน มีวัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการเพื่อ 1) เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ ได้แก่ การวางแผนการประชาสัมพันธ์ การรับสมัคร การอำนวยความสะดวก การจัดกิจกรรม ปัญหาและอุปสรรค ของโครงการ 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านปัจจัยนำเข้า ได้แก่ ความพร้อมและความเหมาะสม ด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และการบริหารจัดการของโครงการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน 3) เพื่อประเมินด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ ได้แก่ วัตถุประสงค์ของโครงการ ที่ สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นและวัตถุประสงค์ของโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และ การบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน 4) ประเมินผลผลิตของโครงการ (1) ประเมินความสำเร็จโดยภาพรวมของโครงการ (2) ประเมินผลสำเร็จของกิจกรรม (3) ประเมินความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และผู้นำชุมชน (4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน คือ ครู 7 คน (เลือกเจาะจงเฉพาะครูผู้สอน) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 6 คน (เลือกเจาะจงเฉพาะบุคคลที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารและครูโรงเรียนวัดอินทนิน) ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 25 คน (เลือกเจาะจงเฉพาะผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ) ผู้นำชุมชน 2 คน (เลือกเจาะจงเฉพาะ ผู้ที่ไม่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน) นักเรียน จำนวน 40 คน (เลือกเจาะจงเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6)
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบสอบถามลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ ฉบับที่ 1 ด้านสภาพแวดล้อม มีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามครูและกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับที่ 2 ด้านปัจจัยนำเข้า มีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับที่ 3 ด้านกระบวนการมีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับที่ 4 ด้านผลผลิตเกี่ยวกับความสำเร็จของโครงการ มีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้นำชุมชน ฉบับที่ 5 ด้านผลผลิตเกี่ยวกับความสำเร็จของกิจกรรม มีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามครู คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน และผู้นำชุมชน ฉบับที่ 6 ด้านความพึงพอใจ มีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และผู้นำชุมชน และฉบับที่ 7 ด้านความพึงพอใจ มีข้อคำถาม 10 ข้อ สำหรับถามนักเรียน
สรุปผลการประเมิน
1. ผลการประเมินในภาพรวมของโครงการ พบว่า ผลการประเมินโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าทั้ง 4 ด้านอยู่ในระดับมาก ( = 4.41, S.D. = 0.55) โดยเรียงตามลำดับค่าเฉลี่ยจากมากที่สุดไปหา น้อยที่สุด ดังนี้ 1) ด้านการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D. = 0.36) ส่วนอีก 3 ด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน มีค่าเฉลี่ยเรียงลำดับ ดังนี้ การประเมินด้านสภาพแวดล้อม อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = 0.41) การประเมินด้านกระบวนการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = 0.55) การประเมินด้านผลผลิตโดยรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = 0.55) เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของด้านผลผลิต พบว่า ทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ได้แก่ 1) ความสำเร็จของโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = 0.55) 2) ความสำเร็จของกิจกรรม อยู่ในระดับมาก ( = 4.26, S.D. = 0.73) 3) ความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนและผู้นำชุมชน อยู่ในระดับมาก ( = 4.35, S.D. = 0.67) และ 4) ความพึงพอใจของนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.47, S.D. = 0.59)
2. ผลการประเมินด้านสภาพแวดล้อม พบว่า ความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในด้านสภาพแวดล้อมของโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = 0.41) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ โครงการสอดคล้อง กับนโยบายและเป้าหมายของโรงเรียน และหน่วยงานต้นสังกัด โครงการตอบสนองความต้องการ ของนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน และความร่วมมือและสนับสนุนจากชุมชน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.77, S.D. = 0.44 ) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ โรงเรียนมีเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนได้มีความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D. = 0.28)
3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D. = 0.36) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการมีจำนวนและความรู้ ความสามารถเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ( = 4.92, S.D. = 0.28) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ วัสดุอุปกรณ์ใน การดำเนินงานโครงการมีอย่างเพียงพอ และชุมชนให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมของโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D = 0.28)
4. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า ความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในด้านกระบวนการ ของโครงการโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D.= 0.55) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ โรงเรียนมีการวางแผนการดำเนินโครงการ ประเมินผลการปฏิบัติงานทุกขั้นตอน และรายงานผลทุกขั้นตอน อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ( = 4.69, S.D = 0.48) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามวิธีและขั้นตอนที่ระบุไว้ในโครงการ อยู่ในระดับมาก ( = 4.08, S.D. = 0.49 )
5. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า
5.1 ผลการประเมินความสำเร็จของโครงการ พบว่า ความคิดเห็นของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้นำชุมชนในด้านผลผลิต ความสำเร็จของโครงการโดยภาพรวม อยู่ใน ระดับมาก ( = 4.37, S.D. = 0.31) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในการผลิตผลทางการเกษตร และสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และผลการดำเนินโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน เป็นแบบอย่างแก่โรงเรียนอื่น/หน่วยงานอื่น อยู่ในระดับมาก ( = 4.67, S.D. = 0.22) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ โรงเรียนจัดให้นักเรียน มีส่วนร่วมในกิจกรรมของโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน อย่างทั่วถึงอยู่ในระดับมาก ( = 4.00, S.D. = 0.27)
5.2 ผลการประเมินความสําเร็จของกิจกรรม พบวา ความคิดเห็นของครู คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผูนําชุมชน ในดานผลผลิต ผลสําเร็จของกิจกรรมโดยภาพรวม อยู่ใน ระดับมาก ( = 4.26, S.D. = 0.73) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียน มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึง ความสำคัญของกิจกรรมในโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน อยู่ในระดับมาก ( = 4.47, S.D. = 0.64) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจกิจกรรมเพาะเห็ด และนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมตลาดนัดพอเพียง อยู่ในระดับมาก ( = 4.07, S.D. = 0.88 )
5.3 ด้านความพึงพอใจ
5.3.1 ผลการประเมินความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และผู้นำชุมชน พบว่า ความพึงพอใจของครู คระกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และผู้นำชุมชน ต่อการดำเนินโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน มีความพึงพอใจโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 4.35, S.D. = 0.37 ) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการผลิตผลทางการ เกษตรและสามารถนำประสบการณ์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58, S.D. = 0.64 ) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ครูผู้รับผิดชอบโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน มีความรู้และพัฒนาทักษะการทำงาน อยู่ในระดับมาก ( = 4.00, S.D. = 0.35)
5.3.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียน
ต่อการดำเนินโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน มีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.47,S.D. = 0.59) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ผู้ปกครองนักเรียนสนับสนุนให้บุตรหลานร่วมกิจกรรมโครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.75, S.D. = 0.49) ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ กิจกรรมในฐานความรู้โครงการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดอินทนิน ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียน อยู่ในระดับมาก ( = 4.08,S.D. = 0.62)
ข้อเสนอแนะ
1. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการปฏิรูปการเรียนการสอน ตามนโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นควรส่งเสริมสนับสนุนให้ครูได้ตระหนักถึงการปฏิรูปการเรียนการสอน โดยการใช้เทคนิคและวิธีการอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนการสอน ครูต้องทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวทาง การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการทุกกลุ่มสาระ และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ให้เป็นปัจจุบัน และสามารถใช้สอนแทนกันได้ โดยผ่านการตรวจสอบจากผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
2. การมอบหมายให้บุคลากรในโรงเรียนรับผิดชอบ ควรพรรณนางานไว้ด้วย เพื่อผู้ปฏิบัติจะรู้ขอบข่ายของงาน และบุคลากรอื่นสามารถปฏิบัติแทนได้เมื่อมีเหตุจำเป็น
3. นโยบายการจัดการศึกษาของโรงเรียนในแต่ละปีการศึกษา ควรสื่อสารให้ผู้เกี่ยวข้องทราบและเข้าใจตรงกันเพื่อว่า จะมีการตรวจสอบทบทวนนโยบายของโรงเรียน ซึ่งบริบทของสังคมได้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
4. กิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ ควรปรับปรุงให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและชุมชน เพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้ พร้อมนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ควรมีการประสานความร่วมมือกับบุคคล และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนด ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และควรกำหนดขั้นตอนในการปฏิบัติให้ชัดเจนและสื่อความหมายที่เข้าใจ ได้ง่ายพร้อมปฏิบัติได้ทันที
5. การประชาสัมพันธ์โครงการ เป็นสิ่งจำเป็น เพราะชุมชนจะได้ทราบและให้ความร่วมมือ