ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการ
ของมนุษย์
ผู้ศึกษาค้นคว้า นายอัสมัน จิจ่าย
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะปันยัง อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
ปีที่ศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การพัฒนาจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค STAD เป็นแนวทางการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของ
ผู้เรียน เนื่องจากผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข และส่งผลให้
เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อพัฒนา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์
80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เรื่อง
การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบกลุ่ มร่วมมื อเทคนิ ค STAD กลุ่ มสาระการเรียนรู้สุ ขศึ กษาและพลศึ กษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะปันยัง หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้
แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะปันยัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ยะลา เขต 2 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือ
ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
จำนวน 10 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ
เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโต
และพัฒนาการของมนุษย์ จำนวน 10 แผน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 15 ชั่วโมง
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน
30 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.75 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.92 และ
ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.81 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้
ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า
(Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.75 และ
ขค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t test)
ผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์มีประสิทธิภาพ
E1/E2 เท่ากับ 86.92/87.36 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ
เทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและ
พัฒนาการของมนุษย์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่
ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยชุดกิจกรรม
การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ
มากที่สุด (
X =4.71 , S.D. = 0.45)
โดยสรุป ผลการศึกษาค้นคว้าโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ทำให้ได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเป็นตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ส่งผลให้นักเรียนมีความ
สนุกสนาน และมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้เพื่อให้บรรลุตามความมุ่งหมายของหลักสูตรได้