ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถ

ชื่อผลงาน : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน

โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563

ผู้ประเมิน : ภูวดล เม่งช่วย ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไตรสามัคคี

หน่วยงาน : โรงเรียนวัดไตรสามัคคี

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2

ปีที่ประเมิน : 2563

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินบริบทหรือสภาพแวดล้อม ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิตของการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน ตัวบ่งชี้ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (Context Input Process Product Evaluation Model : CIPP Model) กลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีจำนวนทั้งสิ้น 343 คน แบ่งเป็น นักเรียน จำนวน 160 คน ครู จำนวน 22 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 148 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย แบบสอบถามความคิดเห็น จำนวน 5 ฉบับ มีการตรวจสอบค่าความเชื่อมั่น อยู่ระหว่าง .742 - .887 รายงานสรุปผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา จำนวน

1 ฉบับ และรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา(SAR) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน ตัวบ่งชี้ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน จำนวน 1 ฉบับ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows ผลการประเมิน และข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้

สรุปผลการประเมิน

ผลการประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563

สรุปผลได้ดังนี้

1. ด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context) ในการดำเนินโครงการ

ผลการประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม (Context) ของโครงการพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ได้คะแนนเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า ครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 4.39,  = .62) มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมสูงสุด

ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน และรองลงมาคือ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 4.32, S.D. = .62) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 15 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

2.ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ในการดำเนินโครงการ

ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของครูโดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 4.47,  = .59) ได้คะแนน 15 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

3. ด้านกระบวนการ (Process) ในการดำเนินโครงการ

ผลการประเมินด้านกระบวนการ (Process) ของโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ตามความคิดเห็นของนักเรียน ครู ผู้ปกครองนักเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม ได้คะแนนเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวม และทุกประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมินพบว่า กลุ่มครู และกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54,  = .58 และ.56) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมที่ประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.46,  = .55) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมที่ประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน ส่วนกลุ่มนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.42, S.D. = .56) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 20 ผ่านเกณฑ์ภาพรวมที่ประเด็นตัวชี้วัดที่ประเมิน

4. ด้านผลผลิต (Product) ในการดำเนินโครงการ

4.1 ผลการประเมินด้านการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องของโครงการพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียน

มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = .52) ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมาคือ กลุ่มครู และกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับมาก ( = 4.45,  = .51 และ .58) และกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.37, S.D. = .51)

4.2 ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนวัดไตรสามัคคี

ปีการศึกษา 2563 โดยภาพรวม เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.29 และเมื่อพิจารณาแต่ละด้าน ด้านมีวินัย เพิ่มขึ้นมากที่สุด ร้อยละ 16.42 รองลงมา คือ ด้านซื่อสัตย์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.17 ส่วนด้านรักความเป็นไทย เพิ่มขึ้นน้อยที่สุด ร้อยละ 0.00

4.3 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน ตัวบ่งชี้ 1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน โรงเรียนวัดไตรสามัคคี

ปีการศึกษา 2563 โดยรวมและทุกตัวบ่งชี้มีคุณภาพ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม

4.4 ผลการประเมินด้านความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ต่อการดำเนินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 โดยรวมทุกกลุ่มที่ประเมินได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้ประเมิน พบว่า กลุ่มนักเรียน และกลุ่มผู้ปกครองนักเรียน

มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54,  = .49 และ  = .48) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน รองลงมา คือกลุ่มครู อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D. = .54) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ส่วนกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ( = 4.48, S.D. = .56) ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 10 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอเพื่อนำผลการประเมินไปใช้

1.1 โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์ หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา

เพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนตามความเหมาะสม

1.2 โรงเรียนควรนำรูปแบบ วิธีการและกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการไปประยุกต์ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน

1.3 ผู้บริหารสถานศึกษา ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของโครงการและควรยกย่องเชิดชูเกียรติ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ชื่อเสียงผลงานของบุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ ด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม

1.4 ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาหรือหน่วยงานอื่น ๆ และเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

2. ข้อเสนอแนะเพื่อการประเมินและวิจัยครั้งต่อไป

2.1 ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางในการประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงาน

เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน

2.2 ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการพัฒนาคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ตามบริบทสภาพของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป

2.3 ควรมีการศึกษาการประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย โรงเรียนวัดไตรสามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 ปีการศึกษา 2563 ในเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป

โพสต์โดย dada : [12 ก.ค. 2564 เวลา 09:17 น.]
อ่าน [4782] ไอพี : 1.20.200.37
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 23,107 ครั้ง
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก
ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก

เปิดอ่าน 11,623 ครั้ง
วิธีไหว้แก้ชงต่อเทพเจ้า ให้ถูกต้อง-ถูกองค์
วิธีไหว้แก้ชงต่อเทพเจ้า ให้ถูกต้อง-ถูกองค์

เปิดอ่าน 18,004 ครั้ง
วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง
วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง

เปิดอ่าน 14,285 ครั้ง
คลิปอันดับ 1 ประกวดคลิป "ไข้เลือดออก"
คลิปอันดับ 1 ประกวดคลิป "ไข้เลือดออก"

เปิดอ่าน 16,279 ครั้ง
ทำไมเวลาเกา จึงหายคัน
ทำไมเวลาเกา จึงหายคัน

เปิดอ่าน 69,295 ครั้ง
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)

เปิดอ่าน 29,042 ครั้ง
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้
ใครที่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ปวดเมื่อยแล้วนวดไม่หาย ต้องอ่านเรื่องนี้

เปิดอ่าน 24,779 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ กินเห็ดมีประโยชน์จริงหรือ?
ไขข้อข้องใจ กินเห็ดมีประโยชน์จริงหรือ?

เปิดอ่าน 16,946 ครั้ง
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"

เปิดอ่าน 11,426 ครั้ง
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น
ว้าว น่าสนใจ คลิปวีดิโอ 7 เทคนิค ถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนให้สนุกขึ้น

เปิดอ่าน 9,378 ครั้ง
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป

เปิดอ่าน 16,251 ครั้ง
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"

เปิดอ่าน 28,903 ครั้ง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง

เปิดอ่าน 14,085 ครั้ง
วิธีเขียนอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
วิธีเขียนอีเมล์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

เปิดอ่าน 20,350 ครั้ง
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"
ประโยชน์ของการบริโภค "ต้นหอมญี่ปุ่น"

เปิดอ่าน 37,881 ครั้ง
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
จริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
เปิดอ่าน 19,048 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
เปิดอ่าน 25,062 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
ปฏิรูปการศึกษาแล้ว ปฏิรูปการลูกเสือด้วยครับ โดย จารึก อะยะวงศ์
เปิดอ่าน 2,988 ครั้ง
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
รับทำ seo ให้กับทุกเว็บไซต์ติดอันดับ Google 1 วันรู้ผล
เปิดอ่าน 15,786 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ