ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารุูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประิษฐ์ดอกไม้จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

เรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้วิจัย นางสุจิตรา ม่วงน้อย

ปีที่วิจัย 2563

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) วัตถุประสงค์ของการวิจัยดังนี้ 1) เพื่อสร้างรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 3) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน โดยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง (Purpose Random Planting) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินคุณลักษณะของนักเรียนและแบบวัดเจตคติต่อการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) ร้อยละค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนและการทดสอบด้วยค่า (t-test defendant) การประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและแบบสอบถามเพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Main) ร้อยละค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

สรุปผลการวิจัย

จากการวิเคราะห์ข้อมูล สามารถสรุปผลการวิจัยได้ดังนี้

1 รูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วยการสร้างข้อตกลง (R : Relating) การอธิบายความ(E : Eplanining) การเรียนรู้และปฏิบัติ(L & D : Learning and Doing) การประเมินผล (E : Evaluating) และการพัฒนา (D : developing) นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดของหลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การวัดผลและการประเมินผลการเรียนรู้ และผลที่เกิดกับนักเรียน ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงพบว่า โดยรวมรูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

2 การทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มีดังนี้

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

2.2 คุณลักษณะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จาก เศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โดยรวมนักเรียนมีคุณลักษณะตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าทุกด้านนักเรียนมีคุณลักษณะอยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าทุกข้อนักเรียนมีคุณลักษณะอยู่ในระดับมากที่สุด

2.3 เจตคติต่อการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โดยรวมนักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด

3 การประเมินรูปแบบการเรียนรู้ เรื่อง การประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ (ชะอำวิทยาคาร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงและแก้ไขเพิ่มเติม หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้และผลที่เกิดกับนักเรียนแล้ว ผลการประเมินรูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผู้เชี่ยวชาญ พบว่า โดยรวมรูปแบบการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดและเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าทุกด้านมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย สุจิตรา ม่วงน้อย : [9 ก.ค. 2564 เวลา 14:04 น.]
อ่าน [4526] ไอพี : 125.25.69.224
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 32,765 ครั้ง
พืชกับศิลปะไทยโบราณ
พืชกับศิลปะไทยโบราณ

เปิดอ่าน 5,865 ครั้ง
ยางอินเดีย ต้นไม้ปลูกในร่ม ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศ
ยางอินเดีย ต้นไม้ปลูกในร่ม ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศ

เปิดอ่าน 22,167 ครั้ง
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก
สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก

เปิดอ่าน 30,330 ครั้ง
การวัดระยะทางบนพื้นราบ
การวัดระยะทางบนพื้นราบ

เปิดอ่าน 32,664 ครั้ง
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน

เปิดอ่าน 23,798 ครั้ง
รวมตำนานอิทธิฤทธิ์ ขุนโจรพันธุ์เสือ ตำนานโรบินฮู้ดเมืองไทย
รวมตำนานอิทธิฤทธิ์ ขุนโจรพันธุ์เสือ ตำนานโรบินฮู้ดเมืองไทย

เปิดอ่าน 12,781 ครั้ง
ฮอตมาก อาจารย์สถาปัตย์ มทร.ศรีวิชัย ดัดแปลงเพลงฮิต "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ทวงการบ้านนักศึกษา
ฮอตมาก อาจารย์สถาปัตย์ มทร.ศรีวิชัย ดัดแปลงเพลงฮิต "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ทวงการบ้านนักศึกษา

เปิดอ่าน 28,900 ครั้ง
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)
พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)

เปิดอ่าน 17,388 ครั้ง
เคล็ดลับเด็ดๆ ในการป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างได้ผล
เคล็ดลับเด็ดๆ ในการป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างได้ผล

เปิดอ่าน 9,017 ครั้ง
อาหารบำรุงรอบเดือน
อาหารบำรุงรอบเดือน

เปิดอ่าน 19,092 ครั้ง
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู
คู่มือการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และแนววินิจฉัยของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญสำหรับครู

เปิดอ่าน 13,795 ครั้ง
แชร์ซึ้ง! "ฉันเป็นครู ตายแล้วขอเป็นครูต่อไป"
แชร์ซึ้ง! "ฉันเป็นครู ตายแล้วขอเป็นครูต่อไป"

เปิดอ่าน 18,001 ครั้ง
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้

เปิดอ่าน 26,830 ครั้ง
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก
เคล็ดลับสำหรับบ้านไม้ ทำอย่างไรให้ไร้ปลวก

เปิดอ่าน 17,967 ครั้ง
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต
จำได้ไหม ย้อนวันวานของอาจารย์ "กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต

เปิดอ่าน 27,302 ครั้ง
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม
ช่วยครูสอนเลขให้เด็กสนุก ด้วยสื่อดิจิตอลคณิตศาสตร์ระดับประถม
เปิดอ่าน 32,088 ครั้ง
เรื่องของคาราโอเกะ
เรื่องของคาราโอเกะ
เปิดอ่าน 8,696 ครั้ง
ความผูกพันสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ?
ความผูกพันสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ?
เปิดอ่าน 16,065 ครั้ง
คลิปแนะนำวิธีระบายความร้อนรถตากแดดแบบเร่งด่วน แบบนี้ต้องลอง
คลิปแนะนำวิธีระบายความร้อนรถตากแดดแบบเร่งด่วน แบบนี้ต้องลอง
เปิดอ่าน 12,362 ครั้ง
โลหิต ที่ควรทราบ
โลหิต ที่ควรทราบ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ