ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยการจัดประสบการณ์แบบโครงการ การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยการจัดประสบการณ์แบบโครงการ

แบบการนำเสนอผลงานสถานศึกษาที่มีวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practices )

ด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ระดับปฐมวัย

ความสำคัญของผลงาน นวัตกรรม หรือแนวปฏิบัติที่นำเสนอจุดประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน

จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิจารณญาณสำหรับเด็กปฐมวัย สรุปได้ว่า การคิดวิจารณญาณเป็นความสามารถของสมองอย่างหนึ่งที่สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่ระดับปฐมวัย และความสามารถในการคิดวิจารณญาณจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุวัย

การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยวิธีโครงการ เป็นการทำภารกิจที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตนเองภายใต้การดูแลและให้คำปรึกษาของครู ตั้งแต่การคิดโครงงาน การวางแผนดำเนินการ การออกแบบ การลงมือปฏิบัติ รวมทั้งร่วมกำหนดแนวทางการวัด และประเมินผล (กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๓๓, หน้า ๕) และ เปลว ปุริสาร (๒๕๔๓ หน้า ๔๘) ได้ศึกษาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์แบบโครงการ พบว่า เด็กปฐมวัยทั้งที่มีระดับความสามารถในการแก้ปัญหาสูงและระดับความสามารถในการแก้ปัญหาต่ำ หลังจากได้รับการจัดประสบการณ์แบบโครงการแล้วมีระดับความสามารถในการแก้ปัญหาสูงขึ้น

จากแนวคิดดังกล่าวสรุปได้ว่า การสอนแบบโครงการ (Project Approach) เป็น การจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความสำคัญกับนักเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนแสวงหาคำตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกันกำหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วดำเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก ให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้

จากการที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติการสอนนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓ /๓ โรงเรียนอนุบาลแม่ฮ่องสอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑ พบว่า นักเรียนมีความสามารถ ในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ได้ไม่เหมาะสมตามวัยและไม่สามารถเชื่อมโยงหรือสรุปผลในการทำกิจกรรมนั้น ๆ ได้

ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นครูผู้สอนนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓ /๓ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญ และสนใจที่การจัดการเรียนการสอนแบบโครงการเพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณให้กับนักเรียนอนุบาลปีที่ ๓/๓ โรงเรียนอนุบาลแม่ฮ่องสอน เพราะการจัดการเรียนการสอนแบบโครงการเป็นรูปแบบการสอนวิธีหนึ่งที่ยึดนักเรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจของนักเรียน นักเรียนมีโอกาสเลือกหัวข้อ ในการเรียนหรือเรื่องที่ตรงกับความต้องการมีการบูรณาการวิชาต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นักเรียนได้คิด ตัดสินใจ และสืบค้นหาคำตอบด้วยตนเองอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่หลากหลาย โดยมีครูเป็นผู้คอยอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของนักเรียน การจัดทำโครงการอาจทำเป็นรายกลุ่มหรือรายบุคคลได้ และสามารถยืดหยุ่นได้ตามสนใจและความต้องการของนักเรียน การจัดประสบการณ์แบบโครงการ เรื่อง ผักกาด จึงเป็นวิธีการที่สามารถพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณตามวัยได้

๔.๑ เพื่อพัฒนาความรู้ในการจัดประสบการณ์แบบโครงการ ( Project Approach ) เรื่อง ผักกาด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓ /๓

๔.๒ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓ /๓

เป้าหมาย

๑. ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓ /๓ มีความรู้ในการทำกิจกรรมแบบโครงการ ( Project Approach ) เรื่อง ผักกาด

๒. ร้อยละ ๘๐ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓ /๓ มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

๕. กระบวนการผลิตผลงาน หรือขั้นตอนการดำเนินงาน

๕.๑ กระบวนการผลิตผลงาน

กรอบแนวคิดของการจัดประสบการณ์

๕.๒ ขั้นตอนการดำเนินงาน

๑. การวางแผน ( Plan )

๑.๑ ศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการด้านสติปัญญา มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้

๑.๒ ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์แบบโครงการ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

๑.๓ กำหนดระยะเวลาในการพัฒนาเด็ก จำนวน ๔ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๔ – ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

๑.๔ สร้างแบบประเมินความรู้ในการทำกิจกรรมแบบโครงการและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณาญาณโดยศึกษาหลักสูตร ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พัฒนา ปรับปรุงและนำไปใช้กับนักเรียนชั้นอนุบาล ปีที่ ๓/๓ โดยใช้เกณฑ์การประเมิน

ปฏิบัติ ( Do )

๒.๑ จัดประสบการณ์แบบโครงการ นำแผนการจัดประสบการณ์ นำไปสอนนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ ๓/๓ เป็นระยะเวลา ๔ สัปดาห์ ระหว่างวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๔ – ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โดยจัดกิจกรรมดังนี้

๓. ตรวจสอบ ( Check )

๓.๑ สรุปผลการประเมินความรู้ในการทำกิจกรรมแบบโครงการและทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข พัฒนาให้ดีขึ้นและนำไปพัฒนาในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไป

๔. ปรับปรุง ( Action)

๔.๑ นำผลงานนำเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและรายงานต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานกิจกรรมครั้งต่อไปและเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อสามารถนำไปเผยแพร่ได้

โพสต์โดย พิมพ์ : [8 ก.ค. 2564 เวลา 17:32 น.]
อ่าน [4427] ไอพี : 58.8.235.215
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

เปิดอ่าน 55,750 ครั้ง
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กราฟิก
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กราฟิก

เปิดอ่าน 44,981 ครั้ง
พรหมวิหาร 4
พรหมวิหาร 4

เปิดอ่าน 12,359 ครั้ง
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"

เปิดอ่าน 46,936 ครั้ง
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)
ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)

เปิดอ่าน 42,562 ครั้ง
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม
พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม

เปิดอ่าน 9,659 ครั้ง
1 ปี "สตีฟ จ็อบส์" จากไป
1 ปี "สตีฟ จ็อบส์" จากไป

เปิดอ่าน 26,419 ครั้ง
การเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะ
การเบิกจ่ายเงินวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 18,603 ครั้ง
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)
โรคมะเร็งจอประสาทตา (Retinoblastoma)

เปิดอ่าน 21,467 ครั้ง
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา
หลักสูตรการผลิตครู ควรเป็น 4 หรือ 5 ปีดี โดย : ดิเรก พรสีมา

เปิดอ่าน 61,699 ครั้ง
หมึกปากกา ทำมาจากอะไร
หมึกปากกา ทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 26,300 ครั้ง
ร้อยความเชื่อหลักการ
ร้อยความเชื่อหลักการ 'ตั้งชื่อ'

เปิดอ่าน 22,325 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 20,225 ครั้ง
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ พระราชพิธีพระศพ

เปิดอ่าน 7,703 ครั้ง
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์

เปิดอ่าน 25,962 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
เปิดอ่าน 23,880 ครั้ง
เทคนิคการคูณแบบญี่ปุ่น ลองฝึกดูครับ
เทคนิคการคูณแบบญี่ปุ่น ลองฝึกดูครับ
เปิดอ่าน 44,408 ครั้ง
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี
เปิดอ่าน 8,813 ครั้ง
แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ
แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ
เปิดอ่าน 25,010 ครั้ง
ความรู้ทั่วไป "8 วิธี ขับเกียร์ออโต้ ประหยัดน้ำมัน"
ความรู้ทั่วไป "8 วิธี ขับเกียร์ออโต้ ประหยัดน้ำมัน"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ