ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยการประยุกต์ใช้
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
ผู้ประเมิน นายทรงพล เตจ๊ะ
ปีการศึกษา 2563
บทสรุปของผู้บริหาร
การประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ทั่วไป คือ เพื่อประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และวัตถุประสงค์เฉพาะ เพื่อประเมินบริบท ประเมินปัจจัยนำเข้า ประเมินกระบวนการ และประเมินผลผลิต ของโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของโรงเรียน จำนวน 42 คน ประกอบด้วย ครู ที่ปฏิบัติงานในปีการศึกษา 2563 จำนวน 7 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน (ยกเว้นผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้แทนครู) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 14 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 14 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมินซึ่งผู้ประเมินสร้างขึ้น จำนวน 6 ฉบับ ฉบับที่ 1 เป็นแบบประเมินบริบท ฉบับที่ 2 เป็นแบบประเมินปัจจัยนำเข้า ฉบับที่ 3 เป็นแบบประเมินกระบวนการ ฉบับที่ 4 เป็นแบบประเมินผลผลิต คือ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน 5 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย ความพอเพียง ความมุ่งมั่นในการทำงาน และความมีจิตสาธารณะโดยครู ฉบับที่ 5 เป็นแบบประเมินผลผลิต คือ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน 5 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย ความพอเพียง ความมุ่งมั่นในการทำงาน และความมีจิตสาธารณะ โดยผู้ปกครองนักเรียน และฉบับที่ 6 เป็นการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการดำเนินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยแบบประเมินทั้ง 6 ฉบับ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จากการตรวจสอบคุณภาพของแบบประเมิน ปรากฏว่าแบบประเมินฉบับที่ 1 ประเมินด้านบริบท มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.829 ฉบับที่ 2 ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.814 ฉบับที่ 3 ประเมินด้านกระบวนการ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.802 ฉบับที่ 4 ประเมินด้านผลผลิต มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.862 ฉบับที่ 5 ประเมินด้านผลผลิต มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.877 และฉบับที่ 6 ประเมินด้านผลผลิต มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.818 กำหนดเกณฑ์การตัดสิน คือ ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 3.51 ขึ้นไป วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สรุปผลการประเมิน
โครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน โดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มีผลการประเมินโดยรวมอยู่ในระดับมาก สูงกว่าเกณฑ์การตัดสินที่วางไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า ลำดับที่ 1 คือ ด้านบริบท ลำดับที่ 2 คือ ด้านผลผลิต ลำดับที่ 3 คือ ด้านปัจจัยนำเข้า และลำดับสุดท้าย คือ ด้านกระบวนการ ทั้งนี้มีรายละเอียดแต่ละด้าน ดังนี้
1. ผลการประเมินบริบท พบว่า มีความสอดคล้องอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการ ของผู้ปกครองนักเรียนและชุมชน มีความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ โครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการของครูและนักเรียน มีความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการมีความชัดเจนเหมาะสม ซึ่งมีความสอดคล้องอยู่ในระดับมาก ซึ่งค่าเฉลี่ยของความสอดคล้องด้านบริบทในภาพรวม สูงกว่าเกณฑ์การตัดสินที่วางไว้ จึงถือว่าโครงการมีความสอดคล้องกับสภาพบริบท ของโรงเรียน
2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า พบว่า มีความเหมาะสม/เพียงพออยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ บุคลากรในโรงเรียนให้ความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการ มีความเหมาะสม/เพียงพออยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ผู้บริหารโรงเรียนมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้โครงการสำเร็จ มีความเหมาะสม/เพียงพอในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ งบประมาณที่ได้รับมีความเหมาะสมและเพียงพอ ซึ่งมีความเหมาะสม/เพียงพอ อยู่ในระดับมาก ซึ่งทั้งนี้ค่าเฉลี่ยในภาพรวมด้านปัจจัยนำเข้า สูงกว่าเกณฑ์การตัดสินที่วางไว้ จึงถือว่าโครงการได้รับการสนับสนุนทรัพยากร 4 ด้าน ได้แก่ ด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุ-อุปกรณ์ และการบริหารจัดการ ตลอดจนมีการสนับสนุนของฝ่ายบริหารโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนเป็นอย่างดี
3. ผลการประเมินกระบวนการ พบว่า มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การประสานความร่วมมือและเปิดโอกาสทุกคนมีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินโครงการ มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ การดำเนินกิจกรรมออมทรัพย์ มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ การดำเนินกิจกรรมปลูกผักสวนครัว ซึ่งมีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยในภาพรวมด้านกระบวนการ สูงกว่าเกณฑ์การตัดสินที่วางไว้ จึงถือว่าโครงการมีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ โดยความร่วมมือของคณะทำงานและผู้เกี่ยวข้อง มีการกำหนดปฏิทินการปฏิบัติงาน กำหนดบทบาทหน้าที่ ขั้นตอน ตลอดจนการนิเทศติดตาม อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ผลการประเมินผลผลิต การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยครู พบว่า โดยเฉลี่ยมีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก ประการที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ความมีจิตสาธารณะ มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ความอยู่อย่างพอเพียง มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก ส่วนประการที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความมุ่งมั่นในการทำงาน มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก ส่วนการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยผู้ปกครองนักเรียน พบว่า โดยเฉลี่ยมีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก โดยทุกประการมีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมากเหมือนกัน ประการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความซื่อสัตย์ มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ ความมีจิตสาธารณะ มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก ส่วนประการที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความมุ่งมั่นในการทำงาน มีการปฏิบัติ/เป็นจริงอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยในภาพรวม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนจากการประเมินโดยครูและผู้ปกครองนักเรียน สูงกว่าเกณฑ์การตัดสินที่วางไว้ จึงถือว่าโครงการสามารถพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามเป้าหมายเชิงคุณภาพที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความรู้และทักษะด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5 ด้านที่นักเรียนได้รับภายหลังการร่วมกิจกรรมในโครงการ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ความน่าสนใจของกิจกรรมในโครงการ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยในภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียน สูงกว่าเกณฑ์การตัดสินที่วางไว้ จึงถือว่าโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนบ้านป่าคา มีกิจกรรมที่น่าสนใจและสามารถสนองต่อความต้องการของนักเรียน กระตุ้นให้นักเรียนอยากร่วมอยากทำกิจกรรม ตลอดจนสามารถพัฒนาความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ