ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน
โรงเรียนวัดสวนพิกุล อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ชื่อผู้ประเมิน นายปรีชา จันเอียด
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนวัดสวนพิกุล
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2
ปีที่รายงาน 2563
บทสรุปผู้บริหาร
การประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมโรงเรียนวัดสวนพิกุลในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน จำนวน 7 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านความมีวินัย 2. ด้านความรับผิดชอบ 3. ด้านความซื่อสัตย์ 4. ด้านความกตัญญูกตเวที 5.ด้านความมีเมตตา กรุณา 6. ด้านความประหยัดและ 7. ด้านความภูมิใจในความเป็นไทย ซึ่งได้ดำเนินการจัดกิจกรรม จำนวน 4 กิจกรรม คือกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กิจกรรมค่ายคุณธรรม กิจกรรมเจริญธรรมเจริญใจในวันพุธ และ กิจกรรมต้นกล้าความดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการและความจำเป็นในการจัดทำโครงการ ความเป็นไปได้ของโครงการ ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ และความสอดคล้องของนโยบายของหน่วยงาน 2) ประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับความพร้อมของบุคลากร ความเพียงพอของงบประมาณ ความเหมาะสมของวัสดุ อุปกรณ์และสถานที่ 3) ประเมินกระบวนการดำเนินงานของโครงการเกี่ยวกับการวางแผน การดำเนินงาน การติดตามประเมินผล และการนำผลไปปรับปรุงพัฒนา และ 4) ประเมินผลผลิตของโครงการ เกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน พฤติกรรมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน และความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครูผู้สอน
การประเมินโครงการใช้รูปแบบการประเมินโครงการแบบ CIPP Model ประชากรที่ใช้ ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน ครู จำนวน 6 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 47 คน และผู้ปกครองนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 47 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 107 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบบสอบถาม จำนวน 5 ฉบับ ที่ผู้ประเมินได้สร้างขึ้น ข้อคำถามเป็นแบบสอบถามชนิดมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหว่าง 0.80-1.00 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.90-0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้หาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ ค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC หาความตรงเชิงเนื้อหา และค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินโครงการปรากฏ ดังนี้
1. ผลการประเมินโครงการในภาพรวม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นและทุกตัวชี้วัด
2. ผลการประเมินด้านบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก ได้แก่ ตัวชี้วัดด้านความต้องการและความจำเป็นในการจัดทำโครงการ ด้านความเป็นไปได้ของโครงการ ด้านความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ของโครงการ และตัวชี้วัดในด้านความสอดคล้องของนโยบายของหน่วยงานผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุด
3. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากทั้งตัวชี้วัดความพร้อมของบุคลากร ความเพียงพอของงบประมาณ ความเหมาะสมของวัสดุ อุปกรณ์และสถานที่
4. ผลการประเมินด้านกระบวนการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมากทุกตัวชี้วัดทั้งตัวชี้วัดการวางแผน การดำเนินงาน การติดตามประเมินผล และการนำผลไปปรับปรุงพัฒนา
5. ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมากที่สุดทุกตัวชี้วัด ทั้งตัวชี้วัดร้อยละของนักเรียนที่ผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พฤติกรรมคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน ความพึงพอใจของนักเรียน ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษา และความพึงพอใจของครู
ข้อเสนอแนะ
การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนวัดสวนพิกุล ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลหลาย ๆ ฝ่าย ประกอบด้วย ครูผู้สอน กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียน ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง จากผลการประเมินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนวัดสวนพิกุล จะเห็นได้ว่าควรดำเนินโครงการนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้เกี่ยวข้อง มีการนำผลการประเมินไปปรับปรุง และพัฒนาการดำเนินโครงการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. จากผลการประเมินประเด็นบริบท พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ในเรื่องการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม อยู่ในระดับมากแต่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ผู้บริหารจึงควรส่งเสริมการสร้างความพึงพอใจ สร้างแรงบันดาลใจเพื่อกระตุ้นให้เกิดความสามัคคีในการร่วมกันพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน จึงควรมีการพิจารณาถึงความต้องการจำเป็นของสภาพแวดล้อม คือ ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และครู เพื่อให้เกิดความพึงพอใจร่วมกัน อันเป็นการตอบสนองความต้องการของนักเรียนอย่างแท้จริง
2. จากผลการประเมินในประเด็นปัจจัยนำเข้าโครงการ พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ความเพียงพอของงบประมาณ ที่ใช้ในการดำเนินโครงการอยู่ในระดับมากแต่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ผู้บริหารจึงควรระดมทรัพยากรและงบประมาณจากภาคส่วนต่างๆ นอกเหนือจากเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินกิจกรรมให้เพียงพอและเหมาะสมกับการทำกิจกรรม และควรสร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ให้พร้อมก่อนการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินโครงการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
3. จากผลการประเมินในประเด็นกระบวนการ พบว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า การประสานงานให้เกิดความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้อง ในการดำเนินโครงการ อยู่ในระดับมากแต่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ผู้บริหารควรมีการแต่งตั้งกรรมการรับผิดชอบโครงการและกิจกรรมตามความรู้ความสามารถและความถนัด เมื่อดำเนินกิจกรรมแล้วควรมีการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินกิจกรรมเป็นระยะในรูปแบบต่างๆ ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทราบ มีการขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถให้คำแนะนำช่วยเหลือ และติดตามผลในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องและเก็บรวบรวมข้อมูลสารสนเทศที่ได้จากการดำเนินกิจกรรมมาปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นและหลากหลายเพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ยิ่งขึ้น
4. จากผลการประเมินในประเด็นผลผลิต พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับ มากที่สุด นักเรียน ผู้ปกครอง และครู มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับมาก จึงควรจัดกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง และปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะกับความต้องการและสภาพปัญหาของนักเรียน เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และครู และเกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น