ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ชั้น

ชื่อเรื่อง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์

เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อผู้วิจัย วิจิตรา เอี่ยมสร้อย

ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง

ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและผู้บริหารสถานศึกษา

ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม

สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้นวัตกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้แก่ นักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 43 คน โดยวิธีการคัดเลือกแบบการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random Sampling) และเป็นกลุ่มนักเรียนที่มีปัญหาของผลการเรียนต่ำต้องได้รับการพัฒนาและแก้ปัญหา และกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาความพึงพอใจ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 43 คน ครูผู้สอนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 จำนวน 3 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน และผู้ปกครองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 43 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

สรุปผลการวิจัย

1. การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 พบว่า คะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนโดยการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ทั้ง 6 แผน มีค่าเท่ากับ 197.14 จากคะแนนเต็ม 222 คะแนน นำมาหาค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 89.59 ส่วนค่าเฉลี่ยหลังเรียนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 25.51 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 85.04 ซึ่งมีค่าเท่ากับประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( )

ดังนั้น ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 89.59/85.04 เกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด / คือ 80/80 แสดงว่าแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดตามสมมติฐานข้อ 1

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรม

การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์

ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 20.16 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 25.51 คะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้าเท่ากับ 5.35 คะแนน และร้อยละของความก้าวหน้าเท่ากับ 26.53 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 25 ของคะแนนเต็มเมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคล พบว่า นักเรียนได้คะแนนเพิ่มขึ้นทุกคน มีคะแนนความก้าวหน้าตั้งแต่ 2 ถึง 9 แสดงว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจริง และเมื่อนำผลต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบ โดยใช้ t- test พบว่า หลังจากนักเรียนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ของการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นั่นแสดงว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นจริง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 2

3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.84 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.19 แสดงว่า นักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้บริหาร มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่นักเรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้

ในชีวิตประจำวันได้จริง เพื่ออนาคตและคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสนใจเรียนคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น และทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 3 ที่กำหนดไว้ เมื่อศึกษาความพึงพอใจจากประชากรกลุ่มเป้าหมาย สามารถอธิบายผลได้ ดังนี้

1. ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.80

มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.30

2. ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.79

มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.35

3. ความพึงพอใจของครู ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.77 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.11

4. ความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 5.00

มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.00

จะเห็นได้ว่า ผลที่เกิดกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในครั้งนี้ได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนานักเรียน ทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ใหม่ที่นักเรียนได้มีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง สามารถหาคำตอบ แก้ปัญหาจากการลงมือทำ เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ปกครอง ชุมชน สังคม ที่นักเรียนได้รับการพัฒนาเป็นผู้รู้ สามารถเป็นบุคคลที่มีคุณภาพในการดำรงชีวิตในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21 และในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ในครั้งนี้ยังบรรลุมาตรฐานคุณภาพการศึกษาทั้ง 4 ด้าน ดังกล่าว

โพสต์โดย wichitra : [11 มิ.ย. 2564 เวลา 19:46 น.]
อ่าน [4608] ไอพี : 1.10.211.140
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 53,286 ครั้ง
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)
มารยาทในการกล่าวขอโทษ (Excuse me)

เปิดอ่าน 2,478 ครั้ง
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด
กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด

เปิดอ่าน 17,793 ครั้ง
พระอุมา
พระอุมา

เปิดอ่าน 46,564 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 44,431 ครั้ง
รายชื่อหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2561
รายชื่อหลักสูตรการพัฒนาข้าราชการครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2561

เปิดอ่าน 12,071 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ

เปิดอ่าน 27,973 ครั้ง
อย่าด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด!
อย่าด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด!

เปิดอ่าน 14,695 ครั้ง
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี
ชี้เอเชียรู้จักเทคนิควาดภาพด้วยสีน้ำมันก่อนยุโรปหลายร้อยปี

เปิดอ่าน 15,996 ครั้ง
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!
ไขมันที่มองไม่เห็น อันตรายที่ไม่รู้ตัว คนผอมต้องระวัง!!!

เปิดอ่าน 7,276 ครั้ง
ประวัติความน่าจะเป็น
ประวัติความน่าจะเป็น

เปิดอ่าน 1,892 ครั้ง
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย

เปิดอ่าน 17,107 ครั้ง
 สะพานซังฮี้  ซังฮี้แปลว่าอะไร?
สะพานซังฮี้ ซังฮี้แปลว่าอะไร?

เปิดอ่าน 1,052 ครั้ง
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science  ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ

เปิดอ่าน 40,990 ครั้ง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทองคำ

เปิดอ่าน 17,209 ครั้ง
ฤกษ์ออกรถปี 2555
ฤกษ์ออกรถปี 2555

เปิดอ่าน 135 ครั้ง
6 เคล็ดลับในการเลือกแบบบ้าน Modern Luxury
6 เคล็ดลับในการเลือกแบบบ้าน Modern Luxury
เปิดอ่าน 4,138 ครั้ง
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
วิธีคลายร้อนให้บ้านปูน
เปิดอ่าน 12,887 ครั้ง
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
ทดลองวิทยาศาสตร์ หน้าชั้นเรียน ทำเอารร.แทบไหม้
เปิดอ่าน 95,809 ครั้ง
ระบบเลขฐานสิบ (Decimal System)
ระบบเลขฐานสิบ (Decimal System)
เปิดอ่าน 32,366 ครั้ง
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน
การถ่ายโอนสถานศึกษาและเปลี่ยนสถานะครู เป็นพนักงานของรัฐ : ปัญหาที่เกาไม่ถูกที่คัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ