ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การรายงานผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลาง พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนบ้านห้วยไร่ อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน

บทสรุปของผู้บริหาร

การายงานผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนบ้านห้วยไร่ อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน มีวัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อรายงานผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนบ้านห้วยไร่ อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน และวัตถุประสงค์เฉพาะ คือ เพื่อ 1) ศึกษาผลการสร้างและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา 2) ศึกษาผลการนำหลักสูตรสถานศึกษาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน 3) ศึกษาผลผลิตการใช้หลักสูตรสถานศึกษา และ 4) ศึกษาแนวทางการแก้ไขปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้สอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมทั้งสิ้น 33 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาสรุปได้ ดังนี้

1. ผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนบ้านห้วยไร่ อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน การสร้างและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. ผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนบ้านห้วยไร่ อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ผลการนำหลักสูตรสถานศึกษาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ของครูผู้สอน และผู้เรียน โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก ผ่านเกณฑ์ที่ตั้ง

3. ผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนบ้านห้วยไร่ อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน ผลผลิตของหลักสูตรสถานศึกษาของครูผู้สอนและผู้เรียน โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้

4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาปีการศึกษา 2563 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ร้อยละของนักเรียนที่มีเกรดเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแต่ละรายวิชาในระดับ 3 ขึ้นไป ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 79.81

5. ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีขึ้นไป ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 100

6. ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรสถานศึกษา ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100

7. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านแนวทางการแก้ไขปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ดังนี้

ความนำ ความเชื่อมโยงระหว่างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกับหลักสูตรสถานศึกษา

ประเด็นปัญหา

- ครูขาดความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษาทำให้ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างหลักสูตร โครงสร้างเวลาเรียน คลาดเคลื่อนไปบ้าง

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรมีการจัดอบรมทบทวนความรู้เรื่องการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาทุกปีการศึกษา เพื่อให้ครูผู้สอนมีความรู้ มีทักษะในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

วิสัยทัศน์ มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสอดคล้องกับหลักสูตรท้องถิ่นมีความชัดเจนสามารถปฏิบัติได้

ประเด็นปัญหา

- วิสัยทัศน์ของโรงเรียนกำหนดเป้าหมายไว้แบบหลากหลายเป้าหมาย ทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ครบทุกข้อ

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรมีการปรับวิสัยทัศน์ของโรงเรียนให้สอดคล้องกับบริบท สภาพแวดล้อม ชุมชน ท้องถิ่น ของโรงเรียน ให้กระชับเข้าใจง่าย และทำได้จริง

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน มีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ประเด็นปัญหา

- สมรรถนะของผู้เรียนของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดไว้เหมาะสมกับนักเรียนที่มีความพร้อม นักเรียนของโรงเรียนบ้านห้วยไร่บางคนมีความพร้อมไม่ครบทุกข้อตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรมีการกำหนดการวัดและประเมินผลการผ่านเกณฑ์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ตามบริบท สภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้เหมาะสมกับผู้เรียน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน

ประเด็นปัญหา

- นักเรียนมีความแตกต่างระหว่างบุคคลการกำหนดเกณฑ์การผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์แต่ละข้อใช้เกณฑ์เดียวกัน ทำให้ไม่เหมาะสมกับผู้เรียนบางคน

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรมีการกำหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผลการผ่านเกณฑ์คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ให้เหมาะสมกับบริบท สภาพแวดล้อมของโรงเรียน และผู้เรียน

โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา

โครงสร้างเวลาเรียน มีการระบุเวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม แต่ละชั้นปีอย่างชัดเจน เวลาเรียนรวมของหลักสูตรสถานศึกษาสอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ประเด็นปัญหา

- การกำหนดโครงสร้างเวลาเรียนในปีการศึกษา 2563 ไม่สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้เวลาเรียนมีไม่ครบตามโครงสร้างที่กำหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรจัดประชุมเชิงวิชาการให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ชุมชน ท้องถิ่นของโรงเรียน

โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี ระบุรายวิชาพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ระบุเวลาเรียนและหน่วยกิต ระบุรายวิชาเพิ่มเติมที่สถานศึกษากำหนด ระบุเวลาเรียนและหน่วยกิต ระบุกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ระบุเวลาเรียน

ประเด็นปัญหา

- ครูผู้สอนยังมีความเข้าใจไม่ชัดเจนเรื่องโครงสร้างหลักสูตรชั้นปี การระบุรายวิชาเพิ่มเติม ระบุรหัสวิชา มีความคลาดเคลื่อนไปบ้าง

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรจัดประชุมเชิงวิชาการให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ชุมชน ท้องถิ่นของโรงเรียน

คำอธิบายรายวิชา ระบุรหัสวิชา ชื่อรายวิชา ชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ถูกต้องชัดเจน ระบุชั้นปีที่สอน จำนวนเวลาเรียน ถูกต้องชัดเจน จัดทำคำอธิบายรายวิชาพื้นฐานครอบคลุมตัวชี้วัดสาระการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ประเด็นปัญหา

- การเขียนคำอธิบายรายวิชาของครูผู้สอนยังยึดตามคำอธิบายรายวิชาเดิมๆ ที่ใช้สืบต่อกันมา ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เนื่องจากมีครูไม่ครบชั้นเรียนครูผู้สอนมีตารางสอนควบชั้นเรียนและรับผิดชอบภาระงานอื่นๆ จากผู้อำนวยการโรงเรียน ทำให้การเขียนคำอธิบายรายวิชาไม่คลอบคลุมตัวชี้วัดสาระการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรมีการประชุมชี้แจง อบรมศึกษาเพิ่มเติม เรื่องการยุบรวม การบูรณาการตัวชี้วัดที่มีความคล้ายคลึงกัน เข้าด้วยกันเพื่อลดเวลาการจัดทำแผนการสอน การวัดผลประเมินผล ให้เหมาะสมกับสภาพบริบทของโรงเรียน

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จัดกิจกรรมทั้ง 3 กิจกรรมที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จัดเวลาทั้ง 3 กิจกรรมสอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียนของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีแนวทางการจัดกิจกรรมที่ชัดเจน มีแนวทางการประเมินกิจกรรมอย่างชัดเจน

ประเด็นปัญหา

- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไม่สอดคล้องโครงสร้างเวลาเรียนในหลักสูตรสถานศึกษา เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 2019 ทางโรงเรียนได้ปรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไปตามสถานการณ์ การควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 และครูผู้สอนมีภาระงานมาก มีครูไม่ครบชั้น จึงทำให้การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา

แนวทางแก้ไขปัญหา

- ควรจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้ครบตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา และจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน

เกณฑ์การจบหลักสูตร ระบุเวลาเรียน/หน่วยกิต รายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมตามเกณฑ์การจบหลักสูตรของโรงเรียนไว้อย่างชัดเจนและสอดคล้องกับโครงสร้างหลักสูตรของโรงเรียน มีการระบุเกณฑ์การประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนไว้อย่างชัดเจน มีการระบุเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้อย่างชัดเจน มีการระบุเกณฑ์การผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไว้อย่างชัดเจน

ประเด็นปัญหา

- มีเกณฑ์การจบหลักสูตรสอดคล้องกับโครงสร้างหลักสูตรหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 อย่างชัดเจน

แนวทางแก้ไขปัญหา

- การกำหนดเกณฑ์การจบหลักสูตรให้ยึดตามหลักสูตรสถานศึกษา

โพสต์โดย นุก : [11 มิ.ย. 2564 เวลา 10:51 น.]
อ่าน [5008] ไอพี : 1.10.216.104
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,883 ครั้ง
สัตว์ชนิดเดียวที่รู้จัก หาวตามคน
สัตว์ชนิดเดียวที่รู้จัก หาวตามคน

เปิดอ่าน 14,807 ครั้ง
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ

เปิดอ่าน 12,571 ครั้ง
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?
"แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?

เปิดอ่าน 22,384 ครั้ง
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์
"ครูเคยโทษตัวเองบ้างหรือไม่ ?" บทความกระแสคัดค้านการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่น โดย วีระ สุดสังข์

เปิดอ่าน 90,769 ครั้ง
10 คำถามสัมภาษณ์ที่คุณควรตอบอย่างมีสติ ถ้าอยากจะเข้าเรียนคณะที่ใฝ่ฝัน
10 คำถามสัมภาษณ์ที่คุณควรตอบอย่างมีสติ ถ้าอยากจะเข้าเรียนคณะที่ใฝ่ฝัน

เปิดอ่าน 16,083 ครั้ง
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ
มาทำกายบริหารให้สมองกันเถอะ

เปิดอ่าน 18,839 ครั้ง
อหิวาตกโรค (Cholera)
อหิวาตกโรค (Cholera)

เปิดอ่าน 132,017 ครั้ง
การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา
การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา

เปิดอ่าน 66,815 ครั้ง
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก
โลกออนไลน์แห่ชื่นชม คุณครูทุ่มสุดตัว สอนเด็กท่องสูตรคูณ แบบสุดยอดแห่งความสนุก

เปิดอ่าน 11,241 ครั้ง
5 อาชีพที่ทำได้แม้อยู่บ้าน
5 อาชีพที่ทำได้แม้อยู่บ้าน

เปิดอ่าน 15,805 ครั้ง
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี

เปิดอ่าน 12,519 ครั้ง
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?
เห็ดหลินจือ มีดีเช่นไร?

เปิดอ่าน 18,166 ครั้ง
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้

เปิดอ่าน 15,060 ครั้ง
เตือนภัยยาเสียสาวแพร่ระบาด
เตือนภัยยาเสียสาวแพร่ระบาด

เปิดอ่าน 9,600 ครั้ง
คลิปช้างกินไอโฟน
คลิปช้างกินไอโฟน

เปิดอ่าน 9,967 ครั้ง
การล้างลำไส้ทำให้อาการสิวดีขึ้น
การล้างลำไส้ทำให้อาการสิวดีขึ้น
เปิดอ่าน 8,602 ครั้ง
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
Google Me เตรียมชนขาใหญ่ Facebook
เปิดอ่าน 11,121 ครั้ง
รวยด้วยมรรค 8
รวยด้วยมรรค 8
เปิดอ่าน 9,355 ครั้ง
โอเน็ต!ยัง โอเค?
โอเน็ต!ยัง โอเค?
เปิดอ่าน 62,938 ครั้ง
พืชที่ใช้ทำกระดาษ
พืชที่ใช้ทำกระดาษ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ