การวิจัยเรื่องการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ภาษไทยมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องระดับภาษา
โดยใช้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD มีวัตถุประสงค์เพื่อหาค่าดัชนี ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้
ภาษาไทยมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องระดับภาษาโดยใช้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนกุสุมาลย์วิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสกลนคร ปีการศึกษา 2563 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม
(Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องระดับภาษา ด้วยกลุ่มร่วมมือแบบ STAD จำนวน 5 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวม 5 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องระดับภาษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชนิด 4 ตัวเลือก
จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.22-0.65 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91
สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานด้วย t-test
ผลการวิจัย ปรากฏดังนี้
1. แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องระดับภาษา โดยใช้กลุ่ม
ร่วมมือแบบ STAD มีประสิทธิภาพ (E 1 / E2) เท่ากับ 91.14/90.50 แสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เรื่องระดับภาษา โดยใช้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD มีค่าเท่ากับ 0.8272 แสดงว่า นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ 82.72
3. ผลการวิเคราะห์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากคะแนนก่อน
เรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องระดับภาษา โดยใช้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD โดยคะแนนจากการทำแบบทดสอบมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
โดยสรุป แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องระดับภาษา โดยใช้กลุ่ม
ร่วมมือแบบ STAD มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม สามารถพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่องระดับ
ภาษาของนักเรียนได้ จึงควรส่งเสริมให้ครูผู้สอนจัดกิจกรรม ภาษา โดยใช้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD
เพื่อพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพต่อไป