ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า

ชื่อเรื่อง รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้าน

ตาดข่า

ผู้วิจัย ทิตย์ณรงค์ มณีวัฒน์

สถานที่ โรงเรียนบ้านตาดข่า

ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ การนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า 1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน 2. เพื่อสร้างรูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า 3. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนาแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ ศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ องค์ประกอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบ เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมิน ระยะที่ 2 การสร้างรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า โดยผ่านผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบและยืนยันรูปแบบ เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมิน ระยะที่ 3 ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า โดยการนํารูปแบบไปใช้กับโรงเรียนบ้านตาดข่า เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ คู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลจากสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ การนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า สภาพปัจจุบัน พบว่า สถานศึกษาเห็นความสําคัญของกระบวนการนิเทศภายใน สภาพปัญหา พบว่า ไม่มีรูปแบบ และวิธีการนิเทศที่ถูกต้อง ขาดรูปแบบการนิเทศภายในที่มีแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจนทำให้ทิศทางของการนิเทศภายในไม่ชัดเจน สภาพความต้องการ พบว่า ควรมีรูปแบบการนิเทศภายในที่เป็นระบบมีทิศทางที่ชัดเจน ดำเนินการนิเทศภายในอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน กำหนดปฏิทินในการนิเทศ กำหนดบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน ควรจัดทำคู่มือในการนิเทศภายใน และส่งเสริมพัฒนาบุคลากรในรูปแบบที่หลากหลาย

2. ผลการสร้างรูปแบบ ได้รูปแบบที่จัดทําขึ้นมีองค์ประกอบหลัก 4 องค์ประกอบ และองค์ประกอบย่อย 3 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ 2) วางแผนการนิเทศภายใน 3) การปฏิบัติการนิเทศภายใน 3 ขั้นตอน ดังนี้ 3.1) ขั้นการวางแผนการจัดการเรียนรู้บทเรียนร่วมกัน 3.2) ขั้นการสอนและสังเกตชั้นเรียนร่วมกัน 3.3) ขั้นการสะท้อนผลร่วมกัน และ4)การประเมินสรุปและรายงานผล

3. ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันของโรงเรียนบ้านตาดข่า มีผลการใช้เป็นดังนี้ 3.1) ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจในการใช้รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกคน 3.2) ครูผู้สอนผ่านการประเมินระดับความสามารถในการนิเทศการจัดการเรียนรู้ ตามแนวการพัฒนาบทเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดี ทุกคน 3.3) ครูผู้รับการนิเทศภายในมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการจัดการเรียนการเรียนรู้พัฒนาดีขึ้นทุกคน 3.4) ผลการประเมินความสามารถของครูผู้สอนหลังการได้รับการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกันอยู่ในระดับมากที่สุด 3.5) ครูผู้สอนมีความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบการนิเทศภายในตามแนวคิดการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน ภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด

ครูผู้สอนได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการทำงานในรูปแบบเดิมๆ ที่เป็นการทำงานโดยลำพัง โดดเดี่ยวไม่มีที่ปรึกษา แตกต่างกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ มีที่ปรึกษาที่ดี มีเพื่อนคู่คิดในการปฏิบัติงาน เป็นมิติใหม่ในการปฏิบัติงาน จากแต่ก่อนเป็นการทำงานโดยลำพัง ได้แลกเปลี่ยนวิธีการการจัดการเรียนการสอนของครูโดยใช้วิธีการสังเกตการสอนในชั้นเรียน การปรับปรุงวิธีการสอนของครูผู้รับการนิเทศโดยใช้กระบวนการชี้แนะและการสะท้อนคิด รวมกันระหว่างทีมนิเทศและครูผู้รับการนิเทศอย่างเป็นกัลยาณมิตร ครูผู้สอนมีความสุข มีความประทับใจ ในการทำงานร่วมกัน รู้สึกชื่นชมการทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่มีความสุข เกิดเป็นเครือข่ายที่มีสัมพันธภาพประกอบดีต่อกัน มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างเป็นกัลยาณมิตร ด้านผู้เรียน พบว่า ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพเรียนรู้อย่างมีความสุข มีความสนใจในการเรียนมากขึ้นมากกว่ารูปแบบเดิมๆ ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ในหลายๆ ด้าน

โพสต์โดย aew : [6 มิ.ย. 2564 เวลา 13:18 น.]
อ่าน [3501] ไอพี : 1.4.140.181
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,528 ครั้ง
สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ไทย
สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อยเพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ไทย

เปิดอ่าน 11,239 ครั้ง
เศรษฐศาสตร์มนุษย์เงินเดือน
เศรษฐศาสตร์มนุษย์เงินเดือน

เปิดอ่าน 26,723 ครั้ง
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ

เปิดอ่าน 5,272 ครั้ง
การปลูก กระทกรกฝรั่ง
การปลูก กระทกรกฝรั่ง

เปิดอ่าน 94,221 ครั้ง
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก
มช.เจ๋งพบสารเซซมิน"งาดำ" รักษามะเร็งครั้งแรกของโลก

เปิดอ่าน 16,850 ครั้ง
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว
อาหารมงคล 10 อย่าง สำหรับบ่าวสาว

เปิดอ่าน 34,689 ครั้ง
ลายมือนักธุรกิจ
ลายมือนักธุรกิจ

เปิดอ่าน 23,691 ครั้ง
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ
เปิดชื่อ 11 จังหวัด หนาวยะเยือกที่สุดในประเทศ

เปิดอ่าน 7,419 ครั้ง
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
จุดยืนของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ

เปิดอ่าน 31,153 ครั้ง
วิธีการเรียนรู้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ
วิธีการเรียนรู้ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการ

เปิดอ่าน 12,218 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

เปิดอ่าน 25,781 ครั้ง
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อทันใจ" วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่

เปิดอ่าน 86,468 ครั้ง
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน

เปิดอ่าน 46,002 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 14,358 ครั้ง
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา

เปิดอ่าน 13,627 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
เปิดอ่าน 18,325 ครั้ง
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.5 โดย สสวท.
วีดิทัศน์ประกอบการสอนคณิตศาสตร์ชั้น ป.5 โดย สสวท.
เปิดอ่าน 12,825 ครั้ง
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่
นม ร.ร.ป้องกัน มะเร็ง ช่วยไม่ให้เกิดขึ้นเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่
เปิดอ่าน 50,796 ครั้ง
คุณค่าทางโภชนาการของ "หอยหวาน"
คุณค่าทางโภชนาการของ "หอยหวาน"
เปิดอ่าน 41,349 ครั้ง
ปลูกลีลาวดี อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม
ปลูกลีลาวดี อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ