การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาคู่มือปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนด้าน การวิจัยในชั้นเรียน เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้มีประสิทธิภาพตาม
เกณฑ์ 80/80 และเพื่อศึกษาผลการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการ
เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยใช้รูปแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง
และการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ครูผู้สอนในเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา 11 เครือข่าย ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ เครือข่ายละ 5 คน จำนวน 55 คน ดำเนินการพัฒนาตามหลักการวิจัยปฏิบัติการ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นวางแผน (Planning) ขั้นปฏิบัติตามแผน (Action) ขั้นสังเกตผล (Observation) และขั้นสะท้อนผล (Reflection) ดำเนินการเป็น 2 วงรอบ ในปีการศึกษา 2560 แต่ละวงรอบใช้รูปแบบ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและ การนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ชนิดประกอบด้วย เครื่องมือพัฒนาได้แก่ คู่มือปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 6 ฉบับ ดังนี้ 1) แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเรื่องการวิจัยในชั้นเรียน 2) แบบประเมินประสิทธิภาพคู่มือปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ 3) แบบประเมินเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียน 4) แบบประเมินรายงานการวิจัยในชั้นเรียน 5) แบบประเมินการประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง และการนิเทศแบบเพื่อน
ช่วยเพื่อน 6) แบบวัดเจตคติของครูผู้สอนที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียน เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบ t (t-test) แบบไม่เป็นอิสระ (Dependent Samples)
ผลการวิจัย
1. ผลการสร้างและพัฒนาคู่มือปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พบว่า
1.1 คู่มือปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยรวมอยู่ในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48
1.2 คู่มือปฏิบัติการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีประสิทธิภาพด้านกระบวนการ (E1) เท่ากับ 88.40ประสิทธิภาพด้านผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 88.73 หรือ E1/ E2 เท่ากับ 88.40/88.73
2. ผลการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยใช้รูปแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง และการนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อน พบว่า
2.1 ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจด้านการวิจัยในชั้นเรียนหลังการพัฒนา สูงกว่าก่อน การพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2. ผลการประเมินเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน โดยผู้เชี่ยวชาญในวงรอบที่ 1 พบว่า ครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเขียนเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนมีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดี คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 73.47 ในวงรอบที่ 2 พบว่า ครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างทุกคนเขียนเค้าโครงการวิจัยในชั้นเรียนมีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับดี คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 76.16
2.3 ผลการประเมินรายงานการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนโดยผู้เชี่ยวชาญในวงรอบ ที่ 1 พบว่า ครูผู้สอนเขียนรายงานการวิจัยในชั้นเรียนมีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 72.25 ในวงรอบที่ 2 พบว่า ครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างทุกคนเขียนรายงานการวิจัย ในชั้นเรียนมีคุณภาพในระดับดี คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 77.72
2.4 ผลการประเมินการประชุมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและการนิเทศ
แบบเพื่อนช่วยเพื่อนในวงรอบที่ 2 พบว่า มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ4.73
2.5 ผลการวัดเจตคติของครูผู้สอนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อรูปแบบการพัฒนาครูผู้สอน
ด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พบว่า ครูผู้สอนมีเจตคติที่ดีต่อรูปแบบการพัฒนาครูผู้สอนด้านการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50